กรณีเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนรถจักรยานยนต์ 2 คันเฉี่ยวชนกัน และมีรถพ่วงบรรทุกแร่ 22 ล้อเสียหลักมาชนซ้ำบนถนนทางหลวง 4009 (สุราษฎร์-นาสาร) ใกล้สามแยกซอยพิเศษ เขตเทศบาล ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย 9 คัน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ขุนทะเล เสียชีวิต 1 นาย เมื่อวันที่ 26 ม.ค.64
วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564 มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค.64 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นายแพทย์สมศักดิ์ นิลพงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ทีมวิเคราะห์สาเหตุอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดสุราษฎร์ธานี และปลัดอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ทีมวิเคราะห์สาเหตุอุบัติเหตุทางถนนอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ คณะได้สรุปผลการวิเคราะห์สาเหตุอุบัติเหตุและแนวทางแก้ไขดังนี้ สาเหตุเบื้องต้นคาดว่า เกิดจากรถบรรทุกพ่วงเสียหลัก ไม่สามารถควบคุมรถได้ ส่วนแนวทางการแก้ไขให้ปรับปรุงทัศนวิสัย โดยการตัดแต่งต้นไม้ให้สามารถมองเห็นในระยะไกล พร้อมติดตั้งวัสดุ อุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น อาทิ ป้ายประชาสัมพันธ์ ป้ายเตือน ตีเส้นเพื่อให้ผู้ใช้รถ ใช้ถนน ทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่จำกัดความเร็ว ตามประกาศเจ้าพนักงานจราจร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นอกจากนี้ การบังคับใช้กฎหมาย ตามประกาศเจ้าพนักงานจราจร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่กำหนดอัตราความเร็วของรถ ให้รถบรรทุก/รถโดยสารสาธารณะ ใช้ความเร็วไม่เกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรถนั่งส่วนบุคคล/รถจักรยานยนต์ ใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตั้งแต่ กม.5+900 ถึง กม.10+700 (เชิงทางขึ้นเขาท่าเพชร- นิคมขุนทะเลซอย 3) ระยะทาง 4.8 กิโลเมตร มีป้ายบังคับความเร็ว และป้ายเตือนตลอด แต่ขาดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เห็นควรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายตรวจจับความเร็วให้เข้มงวดโดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งด่านบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ต่อเนื่อง และให้จัดหาอุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่มเติม สำหรับเจ้าหน้าที่ทีมช่วยเหลือในการปฏิบัติงาน