เพลิงไหม้ชุมชนหลังสามร้อยห้อง วอด 5 หลัง ซอยคับแคบไร้ประปาหัวแดง ชาวบ้านวิ่งหนีตายชุลมุล ย่านเจริญกรุง

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ชุมชนหลังสามร้อยห้อง ภายในซอยเจริญกรุง 99 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่พร้อมอาสาสมัครกู้ภัยมาถึงที่เกิดพบว่าเหตุเกิดภายในชุมชนหลังสามร้อยห้อง ซอย เจริญกรุง 99 แขวง วัดพระยาไกร เขต บางคอแหลม จังหวัดกรุงเทพมหานคร พบกับกลุ่มควัน และ แสงเพลิงเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 619/12 แล้วรุกลามอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมาเพียงแค่แป๊บเดียวไม่ถึง 10 นาทีก็พบว่าแสงเพลิงดังกล่าวได้รุกลามไปที่บ้านใกล้เคียงกันเป็นจำนวนถึง 3 หลัง และ ยังคงรุกลามติดบ้านข้างเคียงอีก 2 หลัง

เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมอาสาสมัครหน่วยงานต่างๆจึงรีบรุดจัดอุปกรณ์เร่งให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนโดยทันที แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานนั้นคือ ภายในชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนที่ปลูกบ้านติดกันหลายหลังแล้วส่วนใหญ่จะปลูกสร้างกันด้วยไม้เกือบทั้งหมดจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อีกอย่างซอยคับแคบผู้คนในชุมชนหนาแน่นมากจึงยากต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีแหล่งน้ำธรรชาติ และ ประปาหัวแดงที่ใช้สำหรับต่อสายดับเพลิง เจ้าหน้าต้องใช้วิธีเปิดท่อระบายน้ำเพื่อดึงน้ำจากท่อขึ้นมาดับไฟแทนแต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ไม่มีฝนจึงทำให้น้ำในท่อน้ำ
เสียมีค่อนข้างจะน้อยนิด เจ้าหน้าที่ต้องประสานขอรถน้ำจากหลายหน่วยงานต่างๆเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนทันที จึงใช้ระยะเวลาในการระงับเหตุการณ์ครั้งนี้กินเวลาไปถึง 2-3 ชั่วโมง แต่สุดท้ายก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แล้วจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ แต่มีเพียงบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายไหม้หมดทั้งหลังไปถึง 3 หลังคาเรือน ส่วนอีก 2 หลังคาเรือนที่ติดกันก็ได้รับความเสียหายอีกหลังละ 50% ของตัวบ้านเลยทีเดียว สร้างความเศร้าสลดต่อผู้ที่สูญเสียทรัพย์สินเป็นอย่างมาก

จากการสอบถามนาง วรรณา อายุ 55 ปี ทำงานเป็นแม่บ้าน บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุไฟไหม้ เล่าว่า
ตนเองเพิ่งจะกลับมาจากที่ทำงานพอมาถึงก็เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นแล้วจึงรีบวิ่งมาดูก็พบว่าบ้านของตนถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ตอไปแล้วทรัพย์สินมีค่าต่างๆรวมทั้งเอกสารสำคัญก็ไม่สามารถที่จะเอาออกมาได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ไม่รู้จริงๆว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ทราบแต่ว่าต้นเพลิงเกิดจากรั้วข้างบ้านของตนเแล้วรุกลามมาที่ตัวบ้านเพราะมีชาวบ้านมาบอกกับตน ซึ่งสอดคล้องกับคำบอกเล่าของชาวบ้านที่อยู่บริเวณแถวนี้ว่ามีแสงเพลิงเกิดขึ้นจากสายไฟฟ้าก่อนที่แสงเพลิงดังกล่าวจะวิ่งมาตามสายไฟแล้วไปติดที่รั้วบ้านของ นาง วรรณา แต่ชาวบ้านต่างบอกกันว่าถ้าในชุมชนแห่งนี้มีประปาหัวแดงก็จะสามารถควบคุมเพลิงได้เร็วกว่านี้เพราะแถวนี้ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ อีกอย่างเป็นชุมชนที่คับแคบรถน้ำดับเพลิงจะเข้ามาไม่ถึงในที่เกิดเหตุ และขอวอนให้หน่วยงานของภาครัฐหรือเอกชน ที่พอจะช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ด้วย

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปถึงเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ได้ต้องรอผลจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วได้ให้ผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านทั้ง 5 หลังคาเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกไฟไหม้ไปสอบถามเพิ่มเติมที่ สน. เพื่อลงบันทึกเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีต่อไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ / ณัชพล แซ่โซ /สมพงษ์ โพธิ์ศรี / ดารัตร์ เส็งใหญ่ ผู้สื่อข่าว

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link