ชัยภูมิ คืบหน้าน้าชายตีเบ้าตาหลานสาว พมจ. ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง พบเพิ่มไม่เพียงทำร้ายหลานสาวตัวเองทั้ง4คน แต่ยังทำร้ายเด็กข้างบ้านด้วย

ชัยภูมิ คืบหน้าน้าชายตีเบ้าตาหลานสาว พมจ. ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง พบเพิ่มไม่เพียงทำร้ายหลานสาวตัวเองทั้ง4คน แต่ยังทำร้ายเด็กข้างบ้านด้วย
คืบหน้ากรณีที่นายวินัย ประเสริฐ อายุ23 ซึ่งเป็นน้าชายแท้ๆ ของเด็กหญิง A ดญ. B ด.ญ. C และดญ. D ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายหลานทั้ง4คน จนได้รับบาดเจ็บ และกระทบกระเทือนด้านจิตใจ จนจนท. ตำรวจ ร่วมกับ ฝ่ายปกป้องของอำเภอเทพสถิต เดินทางไปให้การช่วยเหลือ โดยได้นำตัวเด็กทั้ง3คนที่มีอายุไล่เลี่ยกัน มาอยู่ในความดูแลของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไว้ก่อนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อคอให้เจ้าหน้าที่ พมจ. และจนท. บ้านเด็ก เข้ามาดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนอีกคนที่เป็นพี่สาวคนโตอายุ16 ปี ยืนยันที่จะอยู่บ้านหลังที่เกิดเหตุต่อ ไม่ยอมเดินทางมากับน้องๆ และยังให้การวกวน เหมือนเข้าข้างน้าชาย
ล่าสุดในสายของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยภูมิ และเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็ก ได้เดินทางมายังบ้านของ ผช. ผญบ ที่นำเด็กมาอยู่ในความดูแลเป็นการชั่วคราว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง

เบี้องต้น บ้านที่เกิดเหตุ อาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีพี่สาวอายุ16 ปี และน้องสาวอายุไล่เลี่ยกัน อีกจำนวน3คน พ่อแม่แยกทางกัน ปล่อยให้เด็กๆดูแลกันเองภายในบ้าน และใกล้ๆกันเป็นบ้านของตากับยาย ซึ่งเด็กๆทุกคนเรืยกว่าพ่อ กับแม่ เนื่องจากตายายเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กทุกคน และอยู่ในบริเวณเดียวกัน ก็เป็นบ้านของนายวินัย ประเสริฐ ซึ่งเป็นน้าชาย ที่เด็กๆอ้างว่าเป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกาย ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงบ้านดังกล่าวไม่พบนายวินัย พบเพียงตายาย แต่ไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางกลับมารับตัวดญ. ทั้ง4คนที่บ้านของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพื่อไปสอบปากคำอย่างละเอียดที่ สภ. เทพสถิต ก่อนที่จะเตรียมออหมายเรืยก น้าชาย มารับทราบข้อกล่าวหา

ด้านนายสงวน สุธรรม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยภูมิ ออกมายอมรับว่าปัญหา ความรุนแรงในครอบครัว ยังมีอยู่ในทุกพื้นที่ ซึ่งกรณีนี้หากเป็นจริงตามที่เป็นข่าว ถือว่าน่าเป็นห่วงเนื่องจาก ผู้ถูกกระทำ ทั้งหมดเป็นหญิง และที่สำคัญเป็นเด็กด้วย ในฐานะตนเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ ได้สั่งการให้จนท. ทั้งพม. นักจิตวิทยา และบ้านเด็ก ลงไปติดตามอย่างใกล้ชิดและเร่งด่วน โดยได้กำชันจนท. ให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน โดยให้ทำการสอบสวนให้รอบด้าน โดยเฉพาะประเด็นกาล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งหากพบว่าเด็กไม่มีความปลอดภัย สภาพจิตใจไม่ปกติ ให้รับตัวมาที่บ้านเด็กจังหวัดชัยภูมิก่อน
อย่างไรก็ตามขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างสอบสวน เด็กหญิง ทั้ง4 อยู่คาดน่าจะมีเด็กถูกกระทำมากว่า5-6คน ที่เป็นเพื่อนบ้านด้วย ตำรวจได้เร่งขยายผล และทยอยเชิญเด็กทั้งหมดเข้ามาให้ปากคำ หากพบว่ามีการทำร้ายร่างกาย และล่วงละเมิดทางเพศจริง จะดำเนินการออกหมายเรืยกทันที
ด้านดญ. A พี่สาวคนโตที่เคยปฏิเสธการถูกทำร้าย และมีความพยายามที่ จะบ่ายเบี่ยงการตอบคำถาม พร้อมยืนยันจะอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดิม ได้ค่อยๆยอมรับแล้วว่าถูกทำร้ายจริง และทุกครั้งที่ถูกทำร้าย จะไม่ทราบสาเหตุ