วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 15.00 น. ร.ต.อ.นราศักดิ์ วงศ์โปทา รอง สว.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับรายงานว่ามีเหตุวัยรุ่นไล่ตีกัน บริเวณปากซอยประชาอุทิศ 51 ใกล้เคียงแยกนาหลวง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บข้อมือขาด จึงเร่งรัดจัดกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีเมื่อเจ้าหน้าที่ พร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบว่าอยู่บริเวณตรงข้ามฝั่งตรงข้ามปากซอยประชาอุทิศ 51 ถนน ประชาอุทิศ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ จังหวัด กรุงเทพมหานคร แล้วในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีขาวคาดแดง ทะเบียน 2 ขด 4652 กทม. ล้มตะแคงคว่ำอยู่บนพื้นถนน มีร่องรอยเลือดหยดเป็นทาง และใกล้กันยังพบนาฬิกาข้อมือตกอยู่ข้างๆรถ แล้วถัดไปไม้ไกลยังพบกับรถนั่งบุคคลยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซีวิค สีขาว ทะเบียน 1 ขฉ 6269 กทม. มีร่องรอยของความเสียหายบริเวณกระจกมองข้างด้านซ้าย กันชนหน้าด้านซ้ายบุบ ประตูหน้าฝั่งซ้ายมีรอยบุบ กันชนหลังด้านซ้ายมีรอยเฉี่ยวชน ได้รับความเสียหาย ส่วนผู้บาดเจ็บวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากประชาชนส่งโรงพยาบาลไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัครจะมาถึง ทราบชือผู้บาดเจ็บต่อมาชื่อนาย อุกฤษ อายุ 18 ปี
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการเก็บรวบรวมหรักฐานทั้งหมดพร้อมบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้ทั้งหมด ส่วนหลักฐานในที่เกิดเหตุที่ผู้ก่อเหตุทำตกหล่นเอาไว้ ได้แก่ อาวุธมีดดาบ ยาวประมาณ 1.20 เมตร 1 เล่ม อาวุธปืนสั้นไม่ทราบชนิด 1 กระบอก และเศษของชิ้นส่วนวัตถุระเบิดไม่ทราบชนิด อีกจำนวนหนึ่ง รองเท้าแตะแบบสวมสีดำ 1 คู่ จึงทำการเก็บรวบรวมวัตุพยานทั้งหมดเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีต่อไปเมื่อสอบถามจากผู้เสียหายที่มากับรถนั่งบุคคล ชื่อ วรรธนันท์ อายุ 46 ปี บอกว่า ตนนั่งรถมากับน้องชายเพื่อจะไปงานศพ มาถึงที่เกิดเหตุติดไฟแดง แยกนาหลวง รถตนก็จอดนิ่งอยู่บริเวณ ประชาอุทิศ 51 ก็มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นวิ่งกันมาชุลมุนอยู่ข้างรถตน สักพักก็มีคนนึงถือมือมีเลือดพุ่งออกเยอะมาก วิ่งไปขอความช่วยเหลือ ให้พาส่งโรงพยาบาลตนจึงเข้าข้างทางเพื่อจอดรถดูความเสียหาย ส่วนทางคนเห็นเหตุการณ์ ชื่อ นาย จตุชัย อายุ 30 ปี อาชีพขับขี่จักรยานยนต์ รับจ้าง บอกเล่าว่า ตนขับขี่รถตามกันมาพอดี แล้วตนเห็นว่าผู้บาดเจ็บนั้นกำลังโดนกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามกันมาอยู่แล้วในมือของผู้ที่ติดตามไล่มานั้นมีคนถือมีด มาด้วย แล้วอีกคนก็ถือปืน พอสักพักเมื่อผู้ก่อเหตุขี่จักรยานยนต์ไล่ตามมาทันก็ใช้มีดฟันเข้าที่แขนของผู้บาดเจ็บ พอผู้บาดเจ็บล้มลง ผู้ก่อเหตุก็ใช้ปืนยิง และอีกคนก็เอาระเบิดไม่ทราบชนิดปาใส่ไปเลย แต่ผู้บาดเจ็บวิ่งหนีได้ทัน จึงมีคนมาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล
ทางนายจ้างชื่อ นาย อาจณรงค์ อายุ 28 ปี และเสมียนชื่อ น.ส. กชกร อายุ 27 ปี
บอกว่า คนเจ็บเป็นลูกจ้างทำงานกับตน เป็นร้านอะไหล่เครื่องมือช่างการเกษตร ตอนเกิดเหตุ ตนให้ออกมารับสติ๊กเกอร์ที่ร้านแถวซอยประชาอุทิศ 12 ออกมายังไม่ถึง 10 นาทีเลย น้องก็โทรกลับมาบอกว่าโดนฟันมือขาด จึงออกมาดูกัน ปกติแล้วผู้บาดเจ็บไม่เคยมีเรื่องเกเร หรือมีเรื่องราวกับใครนะ ใช้ง่าย ตอนมาที่ทำงานที่ร้านก็ไม่มีทีท่าจะเป็นนักเลงอะไร แต่กับเพื่อนนี่ ตนไม่รู้เลยว่าเคยมีคู่อริที่ไหนทางด้านผู้บาดเจ็บนั้นมีอาการค่อนข้างจะสาหัสเนื่องจากการถูกฟันเข้าที่ข้อมือข้างซ้ายจนเกือบจะขาดออกจากร่างกาย แล้วมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุนั้นผู้บาดเจ็บได้วิ่งหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุเพื่อหาให้คนช่วยตนเองนำส่งโรงพยาบาลนั้นเป็นระยะทางเกือบถึง500 เมตร บาดแผลเปิดกว้างขนาดใหญ่และมีเลือดไหลออกมาตามทางตลอด พอดีมีพลเมืองดีนำส่งถึงโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ แล้วนั้นอาการค่อนข้างที่จะสาหัส จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งนำส่งผู้บาดเจ็บไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเลิศสิน อย่างเร่งด่วนทันทีเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงตรวจสอบพื้นที่แล้ว และจะเร่งติดตามผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินการทางกฎหมายต่อไป คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานก็จะสามารถจับผู้ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน เนื่องจากในจุดเกิดเหตุและบริเวณโดยรอบมีกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้อย่างชัดเจน
ณัชพล แซ่โซ / โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว
Leave a Reply