สาวคิดสั้นใช้วิธีฆ่าตัวตายพิสดาร สน. บางขุนเทียน

เมื่อเวลา 16.30 น วันที่ 30 พฤษภาคม 2561

ร.ต.ท.กิติตพันธ์ มาวิเศษ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในตึก 3 เจ คอนโด เมโทร พาร์ค สาทร (กัลปพฤกษ์) ซอยกัลปพฤกษ์แยก 2 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชรพ.ศิริราช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุภายในห้องพักเลขที่ 214/89 บริเวณชั้นที่ 7 พบแผ่นกระดาษติดไว้ที่ประตูห้องน้ำพร้อมทั้งระบุข้อความด้วยปากกาสีแดงว่า “แก๊สพิษ” อีกทั้งยังมีสก็อตเทปใสซีนที่ขอบประตูเพื่อไม่มีลมระบายอากาศและถูกล็อกจากด้านใน ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันพังประตูเข้าไปก่อนพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือน.ส.พิชญา หรือจ๋า ตั้งธรรมนิยม อายุ 25 ปี สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดคอกลม สีน้ำเงิน นุ่งกางเกงบ๊อกเซอร์ลายจุด สีน้ำเงิน ใกล้กันพบเตาถ่านโดยมีเศษถ่านที่ใช้ประกอบอาหารเผาไหม้เรียบร้อยแล้ว และโทรศัพท์มือถือวางอยู่ข้างศพผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีการใช้สก็อตเทปใสซีนที่พัดลมระบายอากาศและหัวสปริงเกอร์ดับเพลิงบนฝ้าเพดานเพื่อไม่ให้มีอากาศออกซิเจนหมุนเวียนและแจ้งเตือนภัย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในห้องพักพบจดหมายสั่งเสีย 2 ฉบับ โดยฉบับแรกระบุข้อความทำนองว่า ขอโทษบิดา-มารดา และให้ช่วยจัดการธุรกรรมทางด้านการเงิน ส่วนฉบับที่ 2 ระบุว่า ขอบโทษและขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด โดยไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สินแม้แต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนางนิภาวิน ตั้งธรรมนิยม อายุ 56 ปี ให้การว่า ตนเป็นมารดาผู้เสียชีวิต โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ที่ผ่านมา เพื่อนร่วมงานของบุตรสาวได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาตนว่าน.ส.พิชญา ไม่มาทำงานและไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงตัดสินใจเดินทางมาหาบุตรสาวภายในห้องพักจุดเกิดเหตุกระทั่งพบแผ่นกระดาษแปะเอาไว้ที่ประตูห้องน้ำอีกทั้งประตูถูกล็อกจากด้านในจึงรีบแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบจนกระทั่งพบเหตุการณ์สลดดังกล่าว

ด้านพ.ต.อ.พงศ์อานันต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นพนักงานการบัญชีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านอโศก โดยมีการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ ซึ่งใช้สก็อตเทปใสซีนตามร่องประตูและจุดระบายอากาศต่างๆเพื่อไม่ให้มีอากาศถ่ายเท อีกทั้งยังมีการนำถ่านที่ใช้ประกอบอาหารมาเผาไหม้เพื่อให้เกิดกลุ่มควันก่อนสูดดมเข้าไป ทั้งนี้ตามร่างกายไม่พบบาดแผลแม้แต่อย่างใด โดยหลังจากนี้จะทำการสอบปากคำผู้ใกล้ชิดพร้อมทั้งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติเวชรพ.ศิริราช เพื่อทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนส่งมอบให้ทางญาตินำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป