สองตายายวัย 68 ปี ขี่จักรยานยนต์ถูกบรรทุกพ่วงชนท้ายทับร่างยายดับส่วนตาเจ็บสาหัส

สองตายายวัย 68 ปี ขี่จักรยานยนต์ถูกบรรทุกพ่วงชนท้ายทับร่างยายดับส่วนตาเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 15 กันยายน 2564 พ.ต.ท.รุ่งอรุณ ยิ่งยืน สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อชนรถจักรยานยนต์มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ที่บริเวณถนนปู่เจ้าสมิงพรายใกล้ทางแยกเข้าวัดสวนส้ม ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิป่อเต็กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียนหัวพ่วง 64-6954 กรุงเทพมหานคร และทะเบียนห่างพ่วง 79-9751 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ทางด้านเลนขวาที่บริเวณหน้ารถทับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ทีทีเอ็กซ์ สีเขียวขี้ม้า ทะเบียน ครท 756 สุราษฎร์ธานี ที่ล้มคว่ำอยู่ด้านหน้าและถูกรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวทับเข้าไปครึ่งคัน ใต้ท้องรถพ่วงคันดังกล่าวยังได้พบร่างผู้เสียชีวิตชื่อสมบัติ สติมั่น อายุ 68 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในท้องรถ นอกจากนี้ยังได้ทราบว่ามีผู้ได้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 รายซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวชื่อนาย แสวง สติมั่น อายุ 68 ปี สามีผู้ตายได้รับบาดเจ็บสาหัสมูลนิธิได้ช่วยนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าไปก่อนแล้ว
จากการสอบถามนายชาตรี ฉิมคุต อายุ 28 ปี คนขับรถพ่วง ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถพ่วงมาทางตรงโดยในช่วงนั้นก็มีปริมาณรถพอสมควรเคลื่อนตัวได้เรื่อย เนื่องจาในช่วงดังกล่าวเป็นสามแยกไฟแดง ในระหว่างที่รถเคลื่อนตัวมาอย่างช้า ๆ ตนก็ไม่ทันเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ของผู้ตายขี่เข้าอยู่ที่หน้ารถของตนตั้งแต่เมื่อไหร่เนื่องจากหน้ารถของตนมันสูงจึงมองไม่เห็น มารู้อีกที่เมื่อได้ยินเสียงและรถที่ตนขับมาเกิดการเขย่าคล้ายเกยทับอะไรบางอย่างจึงได้รีบจอดรถลงมาดูได้พบร่างของผู้เสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถและร่างผู้บาดเจ็บตกอยู่ตรงหน้ารถตน ส่วนรถจักรยานยนต์ถูกทับเข้าไปครึ่งคัน ตนจึงรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ระหว่างที่รถมีกาเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ คาดว่าผู้ตายน่าจะมีการเปลี่ยนเลนออกมาทางขวาเพื่อที่จะเลี้ยวบริเวณสามแยกไฟแดง โดยไม่ทันระวังประกอบกับหน้ารถบรรทุกพ่วงมันสูงจึงมองไม่เห็นด้านหน้าในระยะกระชั้นชิดจึงถูกรถพ่วงชนและทับจนบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป