สลด สาวใหญ่วัย 55 ปี ถูกรถชนดับกลางถนน สามีเผยก่อนออกจากบ้านบ่นอยากกินทุเรียน ถนนอิสรภาพ

สลด สาวใหญ่วัย 55 ปี ถูกรถชนดับกลางถนน สามีเผยก่อนออกจากบ้านบ่นอยากกินทุเรียน ถนนอิสรภาพ

วันที่ 25 กันยายน 2564 เวลา 21.30 น.

พันตำรวจโท ธาม พิชญวิญญูสกุล สว.สอบสวน สน.บางกอกน้อย รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนคนเดินเท้า และภายในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย บริเวณกลางถนน อิสรภาพ ใกล้เคียงปากซอย อิสรภาพ 43 จึงเร่งรุดจัดกำลัง พร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 รายลักษณะนอนหงายหน้าอยู่บนพื้นผิวถนน อิสรภาพ ใกล้เคียงปากซอย อิสรภาพ 43 แขวง บ้านช่างหล่อ เขต บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร มีบาดแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่ง และมีบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณศรีษะ นอนจมกองเลือดอยู่ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาชื่อ นาง นิติภรณ์ อายุ 55 ปี ถัดมาบริเวณใกล้กับร่างผู้เสียชีวิต พบรถยนต์นั่งสาธารณะเเท็กซี่ สีชมพูคาดขาว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น แอลติส ทะเบียน ทษ 2117 กรุงเทพมหานคร และใกล้กันยังพบกับรถตู้ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น เวลไฟร์ สีบลอนเทา เลขทะเบียน ญฎ 5896 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ใกล้กันภายในที่เกิดเหตุ แล้วยังพบกับผู้ขับขี่รถทั้ง 2 คัน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม นาย บุญชู อายุ 65 ปี เป็นสามีของผู้เสียชีวิต บอกเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ภรรยาตนจะออกไปซื้อทุเรียน ตนก็บอกว่าฝนตกอยู่ อย่าเพิ่งออกไปเลย ตนไม่ให้ออก แต่ภรรยาก็ยังออกไป จนมีเพื่อนบ้าน โทรกลับมาบอกว่า ภรรยาตนโดนรถชนเสียชีวิต ตนจึงออกมาดู ก็พบว่า เป็นภรรยาตนจริงๆ

ส่วนทางนาย ณรงค์ อายุ 58 ปี คนขับรถแท๊กซี่ บอกเล่าว่า ตอนเกิดเหตุ ตนขับรถมาตามทางปกติ ตนมองไม่เห็นผู้เสียชีวิตเลย ฝนตกด้วย ตนก็ขับมาไม่เร็วนะ มันมืดมาก มารู้อีกทีคือ ชนแล้ว ตนก็จอดรถ ลงไปดูคือ เห็นคนนอนอยู่กลางถนนแล้ว ชนจากทางด้านซ้าย แล้วก็ไม่รู้ว่าไปชนกับรถคันอื่นอีกมั้ย

และทางอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจุดบวรบางพลัด ชื่อ นาย ยศสรัล อายุ 25 ปี บอกเล่าว่า ตอนที่ตนไปถึง เห็นผู้เสียชีวิตนอนอยู่เกาะกลางถนน ซึ่งโดนรถแท๊กซี่ชน แล้วกระเด็นไปชนรถตู้อีกทีนึง อาสาที่มาถึงชุดแรก ได้ไปตรวจสอบผู้บาดเจ็บแล้วทำการนวดหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตแล้ว จึงประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการต่อ

เบื้องต้นจากการสอบถามจากพยานภายในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นประชาชนผู้ที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี ได้เล่าให้กับอาสาสมัครกู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า ผู้เสียชีวิตได้ข้ามถนนไปจนถึงเส้นเหลืองซึ่งเป็นเส้นที่แบ่งครึ่งถนนแล้วและก็กำลังยืนรอข้ามถนนอยู่ตรงนั้นอยู่สักพักนึงแล้วพอดีจังหวะนั้นก็เห็นว่ารถแท็กซี่ก็พุ่งชนผู้เสียชีวิตอย่างแรงแล้วก็กระเด็นไปโดนรถตู้อีกครั้งแล้วจึงแน่นิ่งไปไม่นานต่อมาอาสากู้ภัยก็มาช่วยเหลือทันทีแต่ไม่ทันการแล้วจึงเสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุทันที ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นของเหตุการณ์ในครั้งนี้ ต้องรอสรุปจากแพทย์นิติเวชถึงสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้ง และต้องตรวจสอบจากสภาพแวดล้อมภายในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดก่อนถึงจะสรุปผลได้ว่าสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ส่วนเบื้องต้นจะเชิญผู้ขับขี่รถยนต์ทั้ง 2 คันเข้าให้ปากคำอีกครั้งและลงบันทึกประจำวันเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนทางคดีก่อน จึงมอบหมายให้อาสาสมัครกู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาตร์โรงพยาบาลศิริราช ก่อนจะมอบให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link