พิษ “เตี้ยนหมู่” ทำน้ำเอ่อท่วมอุบลฯ หลายชุมชน ปชช.อพยพเข้าศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว

วันนี้ (27 ก.ย. 64) ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประชุมติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งข้อมูลจากการรายงานพบว่าปัจจุบันระดับน้ำในน้ำมูลสูง 7 เมตร ทำให้ชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ มีน้ำเริ่มเอ่อท่วมบางจุด ในขณะที่ฝั่งอำเภอเมือง ยังต่ำกว่าตลิ่ง 1 เมตร แต่มีบางชุมชนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานีและตำบลแจระแมที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำ น้ำเริ่มเอ่อเข้าท่วม เช่น ชุมชนวังแดง ชุมชนศรีประดู่ 1 ชุมชนบูรพาราม 2 และ บูรพา 3 ชุมชนวัดป่าแสนอุดม 1 ชุมชนพนม 2 บ้านท่าบ่อ หมู่ 1 และหมู่ 2 และบ้านทัพไทหมู่ที่ 7 จึงจำเป็นต้องอพยพประชาชนไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว รวม 8 ศูนย์ จำนวน 85 ครัวเรือน 289 คน โดยมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความดูแลช่วยเหลือประชาชนที่พักอาศัยในศูนย์พักพิงอย่างถูกสุขลักษณะและเป็นไปตามมาตรฐาน โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเปราะบาง

สำหรับอัตราการไหลของน้ำมูลที่จุดสะพานเสรี (M7) 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในขณะที่อัตราการไหลของแม่น้ำมูล ที่ อ.โขงเจียม 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และ ระดับน้ำแม่น้ำโขงต่ำกว่าแม่น้ำมูลอยู่ 2.5 เมตร จึงทำให้การระบายน้ำยังสามารถทำได้ดี น้ำมูล จาก จ.ศรีสะเกษ และน้ำชี จาก จ.ยโสธร มีแนวโน้มสูงขึ้น ส่วนอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ที่จังหวัดนครราชสีมา ไม่ได้แตกอย่างที่เป็นข่าว

ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานจังหวัดอุบลราชธานี ได้เตรียมการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มการระบายน้ำที่แก่งสะพือ และประสานการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ที่ อ.พิบูลมังสาหาร และ อ.โขงเจียม เพื่อเร่งระบายน้ำ รอรองรับน้ำที่อาจจะไหลลงมาสมทบ ทั้งนี้ หากไม่มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ระดับน้ำจะทรงตัวภายในวันที่ 30 กันยายน 2564

ขณะเดียวกัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ให้ทุกอำเภอที่เกิดเหตุรายงานข้อมูลมาที่จังหวัดทันทีเพื่อประกาศพื้นที่ประสบภัย ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งสำรวจพื้นที่แหล่งน้ำเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ฤดูแล้งด้วย