ศบค.มท.แจ้งทุกจังหวัดทั่วประเทศ พิจารณาดำเนินการแนวทางเตรียมความพร้อมให้บริการวัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน/นักศึกษา อายุ 12 ปี ขึ้นไปที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า

ศบค.มท.แจ้งทุกจังหวัดทั่วประเทศ พิจารณาดำเนินการแนวทางเตรียมความพร้อมให้บริการวัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน/นักศึกษา อายุ 12 ปี ขึ้นไปที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า

 วันนี้ (  5 ต.ค. 64) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรคในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้แจ้งแนวทางการดำเนินงานเตรียมความพร้อมให้บริการวัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน/นักศึกษา อายุ 12 ปี ขึ้นไปที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามแนวทางฯ ของกรมควบคุมโรค ได้แก่
 1) ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประสานการจัดบริการให้วัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน/นักศึกษา ในรูปแบบการให้บริการวัคซีนผ่านสถาบันการศึกษา โดยหากนักเรียน/นักศึกษาในสถาบันการศึกษาดังกล่าวมีอายุเกิน 18 ปี ให้รับวัคซีน Pfizer ได้พร้อมกับนักเรียนร่วมสถาบันการศึกษา และหากกรณีที่นักเรียน/นักศึกษาไม่สามารถเข้ารับวัคซีนผ่านสถานศึกษาได้ ให้พิจารณาจัดหาช่องทางการเข้าถึงวัคซีนตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
 2) แจ้งแผนการจัดส่งวัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน/นักศึกษา อายุ 12 ปีขึ้นไปที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่าให้แก่โรงพยาบาลจังหวัดและอำเภอ สำหรับการให้บริการช่วง 2 สัปดาห์แรก โดยจะแจ้งการจัดส่งวัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน/นักศึกษา ในสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ของเดือนตุลาคม 2564 ในภายหลัง
 3) ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประสานศึกษาธิการจังหวัดหรือหน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาเพื่อทราบจำนวนกลุ่มเป้าหมายการรับวัคซีน และแจ้งจำนวนนักเรียนที่ประสงค์รับวัคซีน รวมทั้งโรงพยาบาลที่จัดส่งวัคซีนไปยังกรมควบคุมโรค เพื่อใช้ในการพิจารณาจัดส่งวัคซีนต่อไป และ
 4) ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด พิจารณาให้บริการวัคซีนโควิด-19 สำหรับบุคลากรทางการศึกษาที่ยังไม่ได้รับวัคซีนให้ครบถ้วน โดยให้วัคซีน Sinovac เข็มที่ 1 และ วัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 2 ระยะห่างระหว่างเข็ม 3 สัปดาห์ โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบริหารจัดการวัคซีน Pfizer เพื่อใช้วัคซีนอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์แก่กลุ่มเป้าหมายสูงสุด และขอให้แจ้งประมาณการจัดส่งวัคซีน Pfizer สำหรับนักเรียน/นักศึกษาไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่รับผิดชอบต่อไป

 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) จะได้ประสานงานการดำเนินงานสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และ ศบค. เพื่อให้เกิดการปฏิบัติในระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ขอประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านในการปฏิบัติตามมาตรการการรักษาสุขอนามัยพื้นฐานตามหลัก DMHTTA คือ D : Distancing เว้นระยะห่าง M : Mask wearing สวมหน้ากาก H : Hand washing ล้างมือบ่อย ๆ T : Temperature ตรวจวัดอุณหภูมิ T : Testing ตรวจหาเชื้อโควิด-19  และ A : Application ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ/หมอชนะ อย่างเคร่งครัด รวมถึงการป้องกันการติดเชื้อแบบUniversal Prevention ให้เป็นชีวิตวิถีใหม่ควบคู่กับการสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อร่วมกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 131/2564
วันที่ 5 ต.ค. 2564

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link