สระบุรี เตือนภัยมิจฉาชีพอ้างเป็นเซลล์ หลอกขายสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด

วันที่ 12 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นาง มาริสา อุปมานะ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 38 ม.14 ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี โดย นาง มาริสา เล่าว่า ร้านของตนเป็นร้านค้า เล็กๆ ขายก๋วยเตี๋ยว และของชำ เล็กน้อยๆ เพิ่งเปิดมาได้ 2 เดือน และเมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมา ได้มีชาย 4 คน ขับรถกระบะ ใส่หลังคาแครี่บอย สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กล 3532 พระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้เข้ามาติดต่อตน โดยอ้างว่าเป็นเซลล์ ขายสินค้าจากบริษัท ชั้นนำ จะนำสินค้าในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด มาขายที่ร้านโดยจะให้เพียงหมู่บ้านละ 1 ร้านค้าเท่านั้น จากนั้นได้นำ แคตตาล็อก ของร้านค้าชั้นนำ ซึ่งน่าเชื่อถือ มานำเสนอ โดยมีสินค้าหลายอย่าง มีทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค มากมาย พร้อมอ้างว่าตัวเองเป็นตัวแทนจาก ร้านค้าอุดมกิจ พลาซ่า ซึ่งตนเองก็พอรู้จักชื่ออยู่บ้าง ว่าเป็นร้านค้าชั้นนำ จึงไม่ได้เอะใจอะไร โดยบอกว่า ถ้าวันนี้ทางร้านเปิดบิลสินค้ากับตน ทางเราจะขนของมาส่งให้ทุกๆ 10 วัน และราคาจะถูกกว่าท้องตลาด ตนจึงได้ขอดูบิลว่ามันถูกกว่าจริงหรือไม่ และเมื่อดูบิลก็รู้ว่าถูกกว่าท้องตลาดจริง เนื่องจากว่า อย่างกาแฟ กระป๋องถาดละ 320 บาท แต่ทางนี้ส่งเพียงแค่ 300 บาท จากนั้นก็มีการพูดจาหว่านล้อม ต่างๆนาๆ ถ้าเปิดบิลกับตน ตนจะมีสินค้าจำพวก ยูนิริเวอร์ ไทยเปบ พวกนี้มาลงให้ ซึ่งวันนี้พร้อมที่จะลงให้ได้เลย ตนจึงได้ถามกลับไปว่าต้องเปิดบิลเท่าไร? ได้รับคำตอบกลับมาว่า สินค้าทุกอย่างต้องคูณ 2 คือ อย่างละ 2 แพ็ค หรืออย่างละ 2 โหล ซึ่งตนคิดว่าไม่ได้มากมายอะไร จึงได้ให้ทางชายที่อ้างตัวเป็นเซลล์ จัดของมาลงได้เลย จากนั้นก็ได้จัดของลงมาให้ ตนเองก็ไม่ได้เช็คอะไร เห็นว่าเป็นของมีปริมาณค่อนข้างเยอะ เนื่องจากมีของคบเคี้ยว เป็นจำนวนมาก ประกอบกับตนเองก็มัววุ่นกับการขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ด้วย คิดว่าคงจะไม่มีอะไร เนื่องจากเห็นว่าเป็นร้าค้าชั้นนำอยู่ด้วย และพรุ่งนี้ก็จะมีของมาลงให้อีก โดยกลุ่มเซลได้อ้างอีกว่า ถ้าลงของกับตน ทางร้านก็จะเอาเครื่องดื่ม ประเภท แอลกอฮอล์ มาลงให้อีก โดยที่ทางร้านยังไม่ต้องจ่ายเงิน และจะมาเก็บเงินทุกๆ 10 วันทางร้านขายได้เท่าไรก็เก็บเท่านั้น ซึ่งตนก็ไม่คิดหวังว่าจะลงพวก แอลกอฮอล์ ให้จริงหรอก แต่เมื่อมองเป็นของที่ลงในวันนี้ตนคิดว่าได้ของในราคาที่ถูก จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพ ได้บอกให้ทางตนเช็คของ ตนจึงได้บอกให้สามี เข้าไปเช็คของ ซึ่งสามีไม่ได้นำบิลเข้าไปตรวจดูด้วย ก็คิดว่าครบ และเมื่อจะจ่ายเงิน ตนเองเงินไม่พอ จะขอโอนให้ได้ไหม แต่ทางกลุ่มมิจฉาชีพ ขอรับเป็นเงินสด เนื่องจากอ้างว่าติดปัญหายุ่งยาก ตนจึงให้แม่นำเงินสดมาให้ จำนวน 25,796 บาท และเมื่อรับเงินไปแล้ว ตนเองสังเกตเห็นกลุ่มมิจฉาชีพ ได้สะกิดกันรีบออกจากร้านไป ตนเองจึงได้เอะใจรีบไปเช็คดูของให้แน่ชัดอีกครั้ง จึงได้รู้ว่าถูกหลอกแล้ว และเมื่อโทรกลับไปก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ซึ่งของทั้งหมดที่ตนซื้อในราคา 25,796 บาท โดยจะมีการนำสินค้าประเภทต่างๆ ปะปน มากับน้ำดื่มบ้าง ของขบเคี้ยวบ้าง แต่พอมาเช็คของจริงๆแล้ว แยกของที่ขายได้ออกมา ซึ่งของมีมูลค่าที่จะขายได้ไม่ถึง 5,000 บาท และของที่ขายไม่ได้ตกเป็นเงิน ประมาณ 20,000 บาท ซึ่งเป็นสินค้าที่นำมาให้มีคุณภาพต่ำ และนำมาบวกขายให้แพงมาก ซึ่งของหลายชนิดราคาสูงกว่าท้องตลาด บางชนิดสูงกว่าท้องตลาดเป็น 100 บาทเมื่อเช็คราคากับท้องตลาดแล้ว ซึ่งตนเองไม่สามารถนำมาขายได้ อย่างสบู่ก้อนละ 20 บาท ขายให้ตนก้อนละ 96 บาท ซึ่งมันสูงเกินความเป็นจริงมาก
จากนั้นตนเองได้ไปขอดูกล้องวงจรปิด กับทางวัดบ่อน้ำเค็ม ซึ่งอยู่หน้าร้านของตน พบว่า รถคันดังกล่าวได้ขับเข้ามา เข้าห้องน้ำภายในวัด ตนจึงได้ขอภาพกล้องวงจรปิด นำมาเป็นหลักฐาน เพื่อที่จะนำไปแจ้งความดำเนินคดี กับกลุ่มมิจฉาชีพ นี้ต่อไป
ขณะนั้นได้มีผู้เสียหายอีกรายหนึ่งจากจังหวัดปราจีนบุรี อยู่บ้านเลขที่ 255 ม.5 อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้โทรศัพท์ติดต่อมาถาม นาง มาริสา อุปมานะ ว่า ตนเองก็โดนหลอก สูญเงินไป 16,170 บาท น่าจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มเดียวกันอย่างแน่นอน

สมภพ พิมมะศร

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link