หลวงปู่บุญตา พระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน แห่งเมืองอุบลฯ อายุ 104 ปี ละสังขารอย่างสงบแล้ว

หลวงปู่บุญตา พระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน แห่งเมืองอุบลฯ อายุ 104 ปี ละสังขารอย่างสงบแล้ว
ผู้สื่อข่าวของเรารายงานมาว่า พระครูถาวรพัฒนคุณ (หลวงปู่บุญตา ถาวโร ) ผู้เป็นพระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน แห่งวัดสิริจันโท บ้านหนองไหล ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ละสังขารด้วยอาการสงบจากโรคชราแล้ว เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 สิริอายุ 104 ปี 82 พรรษา สร้างความโศกเศร้าสลดอาลัย ให้กับศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง เป็นอย่างยิ่ง โดยมีบรรดาญาติโยม และศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่บุญตา ทั้งในและนอกพื้นที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศ เพื่อมารดน้ำศพหลวงปู่ โดยมางวัดและญาติโยมและศิษยานุศิษย์ ได้กำหนดสวดพระอภิธรรมและบำเพ็ญกุศลอย่างต่อเนื่องจนครบ 100 วัน ก่อนประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

สำหรับประวัติของหลวงปู่บุญตา ถาวโร ถูกโพสต์เอาไว้ในเฟซบุ๊กของวัดสิริจันโท เอาไว้ว่า หลวงปู่บุญตา เป็นพระมหาเถระผู้มีรัตตัญญูกาล พระผู้มีศีลจารวัตรที่งดงามผ่องใส่ พระผู้เปี่ยมด้วยธรรม เป็นพระผู้สมถะพูดน้อยและ พระผู้มีเมตตาธรรมสูง อายุ 104 ปี เป็นเจ้าอาวาสวัดสิริจันโท บ้านหนองไหล ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เกิดเมื่อปี พ.ศ.2460 และได้อุปสมบท เมื่อ ปีพ.ศ.2482 โดยมีพระอุปัชฌาอ่อน และพระกรรมวาจาจารย์ สิงห์ อุปสมบท ณ พระอุโบสถ วัดบ้านหนองไหล บ้านเกิดของหลวงปู่เอง และมีศักดิ์เป็นหลานแท้ของท่านเจ้าคุณอุบาลี คุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท )เมื่อองค์หลวงปู่บุญตา ถาวโรได้อุปสมบทแล้วก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและศึกษาอักษรธรรมโบราณได้อย่างแตกฉานไม่ว่าจะเป็นอักษรไทยน้อย อักษรธรรม อีกทั้งยังเป็นผู้อนุรักษ์รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมของภาคอีสาน ฮีต12คลอง14 ตลอดจนคำเทศ์ คำสอนโบราณต่างๆและหลวงปู่บุญตา ถาวโรท่านยังเป็นผู้ที่มีความชำนาญในด้านช่างหลายแขนงอีกด้วย หลวงปู่บุญตาถาวโรยังได้ออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อขัดเกลากิเลส ขัดเกลาจิตใจของตนตามรอยพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตอยู่หลายครั้ง หลวงปู่บุญตา ถาวโรยังเข้าศึกษาพระกรรมฐานแนวสติปัฏฐานสี่ที่สำนัก วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ในสมัยนั้นผู้สอนกรรมฐานคือสมเด็จพระพุฒาจารย์(อาจ อาสโภ เถระ)ได้ระยะหนึ่งเมื่อสมควรแก่เวลาหลวงปู่บุญตา ถาวโรก็ได้เดินทางกลับยังวัดบ้านหนองไหล พักจำพรรษาที่วัดบ้านหนองไหล เพื่อช้วยงานครูบาอาจารย์ด้านต่างๆจนที่เป็นว่างใจจาก พระธรรมเสนานี(กิ่ง มหาปฺผโล เถร)ได้มอบหมายให้พระบุญตา ถาวโรช้วยบูรณะศาลาการเปรียญของวัดมณีวนาราม จนที่พอใจของ พระธรรมเสนานี(กิ่ง มหาปฺผโล)นะสมัยนั้นเป็นอย่างมาก แล้วพระบุญตา ถาวโร ได้ถวายงานพระธรรมเสนานีอยู่บ่อยครั้งและยังบูรณะอีกหลายวัดในจังหวัดอุบลราชธานี พระบุญตา ถาวโรก็ได้เป็นที่ไว้วางใจและถวายงานพระเดชคุณพระธรรมเสนานีเรื่อยมา พระบุญตา ถาวโรในขนาดนั้นได้เองพระบุญตา ถาวโรได้รับแต่งตั้งพระครูฐานานุกรมในพระราชาคณะพระธรรมเสนานี ที่พระครูสังฆรักษ์บุญตา ถาวโร นำมาซึ้งความปิติยินดียิ่งของอุบาสกอุบาสิกาตลอดจนชาวบ้านหนองไหลเป็นอย่างมาก และท่านได้ช่วยเหลืองานครูบาจารย์และอบรมสอนสั่งอุบาสถ อุบาสิกาชานบ้านหนองไหลตลอดเรื่อยมา

เมื่อครั้งสมเด็จพระมหาวีรวงศ์(ติโสอ้วน)ท่านเดินทางมาพักยังวัดบ้านหนองไหล สมัยนั้นหลวงปู่บุญถาวโรยังได้เข้าถวายงานอุปฐากเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์(ติโสอ้วน)อยู่บ่อยครั้งเจ้าพระคุณสมเด็จมักจะเรียกหลวงปู่บุญตาว่า”พระหลาน”หลวงปู่บุญตายังได้รับข้อวัตรข้อธรรมจากเจ้าพระคุณสมเด็จอยู่บ่อยครั้ง เจ้าคุณสมเด็จได้กล่าวสอนหลวงปู่บุญตา ถาวโรไว้ว่า “ชั่วทันกัน ดีทันกัน ตกลงกัน สามกันอยู่นำกันได้” หลวงปู่บุญตาก็ได้นำข้อคิดข้อธรรมนำมาสอนจิตสอนใจตนเสมอมา และหลวงปู่บุญตา ถาวโรก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านหนองไหลตลอดมา ซึ่งแต่ก่อนเป็นสำนักสงฆ์
เมื่อหลวงปู่บุญตา ถาวโร ท่านคิดที่จะทำสำนักสงฆ์ที่บ้านหนองไหลแห่งนี้สร้างเป็นวัดให้ได้ จึงได้เดินทางไปขอคำแนะนำจากครูบาอาจารย์คือพระโพธิญาณเถร(หลวงปู่ชา สุภัทโท)แห่งวัดหนองป่าพง แล้วหลวงปู่บุญตา ถาวโร ก็ได้นำความประสงค์ที่จะสร้างวัดได้เข้าเรียนถาม หลวงปู่ชา สุภัทโท โดยหลวงปู่ชา สุภัทโท ท่านก็ได้แนะนำในการสร้างวัดว่า “ให้ทำรั้วก่อนนะค่อยทำอย่าอื่น เพื่อจะได้รู้อานาเขตของวัดเพื่อชาวบ้านจะได้ไม่รุกล้ำในเขตของสงฆ์จึงให้สร้างรั้วก่อนแล้วค่อยทำอย่าอื่น เมื่อหลวงปู่ได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่ชา สุภัทโทแล้วท่านก็ได้ดำเนินการสร้างวัดเรื่อยมาจนได้เริ่มสร้างกุฏิและสร้างศาลาปฏิบัติธรรมขึ้น และพระอุโบสถ กุฏิสงฆ์จนแล้วเสร็จและสิ่งต่างๆเรื่อยมาถึงปัจจุบันเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2539 หลวงปู่บุญตา ถาวโรได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสิริจันโท วัดสิริจันโทนี้หลวงปู่บุญท่านได้นำฉายาของพระเดชพระคุณพระอุบาลี คุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)นำมาเป็นชื่อวัด สิริจันโท แปล ว่าสว่างดั่งดวงจันทร์ เพื่อถวายพระเกียรติเทิดทูลครูบาอาจารย์หลวงปู่ใหญ่

และในปีเดียวกันนี้ วันที่ 25ธันวาคม ปี2539 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ให้เป็นวัดสิริจันโท หลังจากนั้นหลวงปู่บุญตา ถาวโรท่านก็ได้พัฒนาวัดและพัฒนาจิตใจชาวบ้านเรื่อยมา จนถึงเมื่อวันที่5 ธันวาคมพ.ศ.2541หลวงปู่บุญตา ถาวโร ได้เลื่อนสมณะศักดิ์เป็นพระครูถาวรพัฒนคุณ ที่พระครูสัญญาบัตรชั้นโท ตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลชั้นโท หลวงปู่บุญตา ถาวโรท่านได้จัดงานปริวาสกรรมอยู่บ่อยครั้ง เพื่ออบรมพระสงฆ์ให้เข้าใจในพระธรรมวินัยเสมอมาจน จนกระทั่งเมื่อวันที่5 ธันวาคม ปีพ.ศ.2549 หลวงปู่บุญตา ถาวโร ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอกที่พระครูถาวรพัฒนคุณ ตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลชั้นเอก
หลวงปู่บุญตา มีความเคราพในธรรมแห่งหลวงปู่บุญมี วัดสระประสานสุข บ้านนาเมือง ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลฯ เป็นอย่างมาก ไปมาหาสู่อยู่ตลอด และยังได้มีศรัทธานำพาญาติโยมร่วมกันปิดทององค์พระพุทธรูปปางมารวิชัยพระประธานใหญ่ในศาลาวัดสระประสานสุขที่อยู่จนถึงปัจจุบันนี้ และ หลวงปู่บุญตาถาวโร ท่านยังมีความคุ้นเคยกับ พระราชปริยัตยากร (บุญเรือง สารโท)วัดพิชโสภาราม จ.อุบลฯ เพราะท่านทั้งสองเป็นสหธรรมมิกกันไปมาหาสู่กันโดยตลอด จนถึงปัจจุบัน

หลวงปู่บุญตา ถาวโร ยังปฏิบัติตามแบบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตและพระอุบาลีคุญูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) เรื่อยมา หลวงปู่บุญตา ถาวโรท่านเป็นพระอริสงฆ์ พระมหาเถรผู้มีรัตตัญญกาล ผู้สมถะ พูดน้อย เรียบง่าย และเปี่ยมด้วยภูมิธรรมสูง และ เคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก
พระทวีศักดิ์ กลิ่นขจร (รักษาการเจ้าอาวาส) วัดสิริจันโท บ้านหนองไหล ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ขอเชิญท่านสาธุชน ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา เพื่อพิธีบำเพ็ญกุศล ถวายท่านพระครูถาวรพัฒนคุณ (หลวงปู่บุญตา ถาวโร) ณ วัดสิริจันโท มีกำหนด 100 วัน โดยบริจาคได้ที่บัญชี ธนาคาร กสิกรไทย เลขที่บัญชี 0741970872 ชื่อบัญชี พระทวีศักดิ์ กลิ่นขจร (รักษาการเจ้าอาวาส) สอบถามเพิ่มเติม 0835994365 ทางวัดงดรับพวงหรีดดอกไม้

ขอบคุณประวัติของหลวงปู่จากเฟซบุ๊กวัดสิริจันโท

เครดิตภาพ : อ๊อฟ ศิษย์ฟ้ามงคล

ทีมข่าวภูมิภาค / รายงาน.

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link