ราชบุรี นักศึกษาสาว-ตำรวจ-แม่ค้า พร้อมเปิดใจ ดราม่าคนใจแคบแจ้งตำรวจบ้าจี้จับน้องนักศึกษาร้องเพลง

จากกรณี เมื่อวันที่ 11 พ.ย.64 เพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองราชบุรี โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านตลาดโคยกี๊ ซอยศรีมหาเกษตร หน้าท่าเรือเทศบาลเมืองราชบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ว่ามีเหตุเปิดเพลงเสียงดัง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ามีนักศึกษาหญิงรายหนึ่งมาเปิดหมวกร้องเพลงเพื่อเป็นทุนการศึกษา จึงได้ว่ากล่าวให้เบาเสียงลงเรียบร้อย เหตุการณ์ทั่วไปปกติ หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ได้ตำหนิและต่อว่าคนที่แจ้งตำรวจและจนท.ตำรวจ พร้อมได้ให้กำลังใจนักศึกษาหญิงคนดังกล่าว โดยมีคอมเมนต์ส่วนหนึ่งระบุว่า "น้องเขายังรู้จักทำมาหากิน หาเงินด้วยตัวเอง คนแจ้งนี้อะดิไม่ได้ดูอะไรเลย ใจแคบมาก ๆ, น่าชื่นชมนะคะ เด็กหาเงินเรียนด้วยความสามารถของตัวเองควรสนับสนุนนะคะ, คนแจ้งก็เดินไปบอกเองก็ได้ให้เบาเสียงสักนิด ก็ทราบวัตถุประสงค์ของเด็กเขาทำอะไร, อยากให้คนแจ้งมาอ่านเมนต์ แล้วทำตัวใหม่ให้มันใจกว้างมากกว่านี้บ้าง คิดเยอะๆ มองให้มันกว้างๆ อย่าเอาแต่ความต้องการตัวเอง, ลงข่าวยังไงให้คนด่า ทัวร์ลงได้แบบนี้ คนแจ้งก็ใจทำด้วยอะไร แล้วแบบนี้น้องนักศึกษาจะรู้สึกยังไง ความกล้าแสดงออกที่เคยมีถูกทำลายเพราะความคิดของคน สู้ๆ นะคะ," ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปพบ น.ส.ปวีณา รวมศิลป์ หรือ น้องกี๊ฟ อายุ 18 ปี นักศึกษา กศน.จอมบึง ชั้นมัธยมปลาย ซึ่งเป็นนักศึกษาที่ถูกทางจนท.ตำรวจตักเตือน โดยเธอได้เปิดใจว่า วันนั้นเธอไปร้องเพลงที่ตลาดราชบุรีตามปกติเหมือนทุกวัน พอร้องไปได้สักพักหนึ่ง มีคุณพี่ตำรวจเดินเข้ามาบอกว่าขอให้ลดเสียงลงหน่อย เพราะมีคนไปแจ้งมาว่าเสียงดังรบกวนเขา ซึ่งในเวลานั้นเธอกำลังจะเลิกแล้ว จึงหยุดร้องเพลงและเก็บของกลับบ้านเลย ซึ่งก่อนที่พี่ตำรวจจะกลับไปยังมอบเงินจำนวน 50 บาท ให้เป็นทุนการศึกษากับเธอด้วย ซึ่งพี่ตำรวจปฏิบัติกับเธอดีมาก และแจ้งว่า "อย่าว่าเขานะ เขาต้องมาทำตามหน้าที่" ซึ่งเธอก็เข้าใจดี ทุกครั้งที่ไปร้องเพลง จะไม่มีแม่ค้าหรือใครบ่นหรือว่าตนเลย แต่กลับชอบใจ ขอเพลงให้และให้เงินเป็นทุนการศึกษาเธอเป็นประจำ แถมชื่นชมในความขยันของเธอด้วย ในตอนนี้เธอก็ยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้องกี๊ฟ กล่าวอีกว่า ปกติที่ผ่านมาเธอจะมาร้องเพลงที่ตลาดแห่งนี้ เพียงอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ตั้งแต่เวลา 06.30 - 08.00 น. ไม่เกิน 1 ชม.ครึ่ง และเปิดลำโพงไม่ดัง เธอต้องการเพียงแค่หาทุนมาศึกษาเล่าเรียนกศน. ซึ่งปีนี้เป็นชั้นสุดท้าย ก่อนเธอจะไปศึกษาต่อมหาวิทยาลัย ไม่ได้คิดสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ถ้าเธอทำอะไรให้ใครรำคาญ เธอก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย หลังเกิดเหตุ จนเกิดเป็นกระแสในโซเชียล ได้มีพิธีกรชื่อดังคือ พี่ณวัฒน์ อิสรไกรศีล โอนทุนการศึกษามาให้จำนวน 10,000 บาท และ สส.กุลวลี จ.ราชบุรี จะมอบทุนการศึกษาให้อีกด้วย เธออยากจะฝากถึงทุกคน ถ้าหากเห็นเธอยืนร้องเพลงที่ตลาดที่ไหน โปรดให้ความเมตตาเธอด้วย เพราะเธอต้องการทุนไปเรียนต่อจริงๆ ไม่ได้คิดสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร หรือใครอยากช่วยเหลือสมทบทุนการศึกษาให้กับเธอ สามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่ ธ.กสิกร สาขาจอมบึง เลขที่บัญชี 0413407222 ชื่อบัญชี น.ส.ปวีณา รวมศิลป์ ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อพบ พ.ต.ท.พงศกร เข็มราช รองผกก.สภ.เมืองราชบุรี เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้เปิดเผยว่า ในส่วนของน้องนักศึกษาที่ไปร้องเพลงเปิดลำโพงต่อกับโทรศัพท์ วันนั้นทางจนท.ตำรวจได้รับแจ้งจาก 191 ให้ไปตรวจสอบ เพราะมีประชาชนแจ้งเข้ามา ซึ่งจนท.ตำรวจ ต้องมีหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบข้อกฏหมาย และต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับชาวบ้าน การปฎิบัติหน้าที่เราจึงต้องยึดหลักความผาสุข ซึ่งวันนั้นที่เราไปหาน้องที่จุดนั้น ทางจนท.ตำรวจก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกให้น้องลดเสียงลงแค่นั้นเอง จนท.ตำรวจไม่ได้มีเจตนาที่จะไปจับตัวน้องเลย เราแค่ไปคุยด้วยความเอื้ออาทร ซึ่งที่เราต้องไปเพราะเราต้องไปตามหน้าที่ เพื่อดูแลความเรียบร้อย ที่ได้รับแจ้งมาเท่านั้นเอง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง ตลาดสดเทศบาลเมืองราชบุรี หน้าท่าเรือเทศบาลเมืองราชบุรี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ โดยได้พบกับ น.ส.ประภา พานิชรัตน์ แม่ค้าขายผักใกล้จุดกับน้องนักศึกษาสาวมายืนร้องเพลงหาทุนเรียนหนังสือ ซึ่งได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ในวันนั้นเธอและเพื่อนแม่ค้าในตลาด ก็รู้สึกงงและตกใจที่จนท.ตำรวจมาหาน้องนักศึกษาทำไม แต่ทางจนท.ตำรวจแจ้งว่า มีคนโทรไปบอกว่าเสียงดังรบกวนให้จนท.มาดูหน่อย เพราะปกติที่น้องมาร้องเพลง เธอและเพื่อนแม่ค้ายังชอบขอเพลงและให้ทุนการศึกษาน้องเป็นประจำ น.ส.ประภา ยังขอเปิดใจกับทางไทยรัฐว่า เธอขอยืนยันว่า น้องไม่เคยเปิดเพลงเสียงดังรบกวนพวกแม่ค้าและชาวบ้านแน่นอน เธอก็รู้สึกงงเหมือนกันว่า "ทำไมข่าวออกไปว่าแม่ค้าโทรไปแจ้งให้มาจับน้อง" ซึ่งความเป็นจริงเธอยืนยันได้เลยว่าพ่อค้าแม่ค้าในตลาดแถบนี้ ไม่มีใครทำกับน้องแบบนั้นแน่นอน เพราะทุกคนรักและเอ็นดูน้องมาก เพราะน้องขยัน ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร