ผลตรวจสถานที่เกิดเหตุ วัตถุพยานและผลการชันสูตรพลิกศพ
ยืนยันว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มเองและเสียชีวิต

ผลตรวจสถานที่เกิดเหตุ วัตถุพยานและผลการชันสูตรพลิกศพ
ยืนยันว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มเองและเสียชีวิต

ตามที่ “รายการถกไม่เถียง” ออกอากาศเมื่อวันที่ ๑๖ ก.ย. ๖๔ ได้กล่าวถึงกรณีนายเทพกานต์ คุ้มศีรษะ พ่อและแม่ของนายคฑาทรัพย์ฯ ผู้ตาย ร้องขอความเป็นธรรม ว่า ผู้ตายซึ่งเป็นบุตรชายของตนถูกรถบรรทุกสองแถวทับศรีษะถึงแก่ความตายแต่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ไม่ให้ความยุติธรรมโดยการสั่งไม่ฟ้อง นั้น
สื่อ-สร้าง-สาร ภ.๔ ขอชี้แจงว่า คดีนี้เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ มี.ค. ๖๔ เวลาประมาณ ๑๑.๔๐ น. ขณะที่ ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ พนักงานสอบสวนเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุจราจรที่ถนนนิตโยขาออกจากจังหวัดนครพนม ตรงข้ามทางเข้าบ้านนามูลฮิ้น ต.นาทราย อ.เมืองนครพนมฯ จึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุเป็นถนน ๔ ช่องทาง มีไหล่ทาง โดย ๒ ช่องทางใช้เดินทางออกจากจังหวัดนครพนม(ช่องทางที่ ๑ และ ๒) มีเกาะกลางถนนกั้นถัดไปอีก ๒ ช่องทาง (ช่องทางที่ ๓ และ ๔) เป็นทางเข้าจังหวัดนครพนม ที่บริเวณไหล่ทางติดกับถนนช่องทางถนนที่ ๑ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มอยู่ ถัดจากรถจักรยานยนต์เล็กน้อยไปทางด้านหน้าพบศพผู้ตายนอนตะแคงซ้ายที่บริเวณศีรษะมีเลือดจำนวนมาก จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสถานที่เกิดเหตุ จากการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ปรากฏดังนี้
๑) รับแจ้งเหตุ ตามวันเวลาที่ศูนย์วิทยุ ๑๙๑ ได้รับแจ้งเหตุ ผู้แจ้งเหตุชื่อนายเกริกเกียรติ (ขอปิดนามสกุล) ผู้แจ้งขับรถจอดติดสัญญาณไฟแดงอยู่บนช่องทางถนนที่ ๒ เห็นผู้ตายจอดอยู่บนไหล่ทางเพื่อมุ่งหน้าออกจากจังหวัดนครพนมติดสัญญาณไฟแดงเหมือนกัน ในช่องทางที่ ๑ ไม่มีรถ เมื่อสัญญาณไฟเป็นสีเขียว ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปบนไหล่ทางโดยผู้แจ้งขับรถในช่องทางที่ ๒ ด้านหลัง เมื่อห่างจากแยกประมาณ ๓๐ ม. ถึงบริเวณจุดที่เกิดเหตุ ผู้แจ้งเห็นผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ยกล้อหน้าแล้วรถจักรยานยนต์ก็เสียหลักล้มลง ผู้ตายนอนตะแคงซ้ายแน่นิ่งไป ผู้แจ้งจึงได้โทรศัพท์แจ้งศูนย์วิทยุ ๑๙๑ (ปรากฏตามคลิปเสียงจากศูนย์วิทยุ ๑๙๑)
๒) ผลตรวจชันสูตรพลิกศพ
๒.๑ สอบสวนแพทย์ รพ.นครพนม ผู้ตรวจชันสูตรศพผู้ตาย ให้ความเห็นว่า บาดแผลที่ศีรษะด้านหลังของผู้ตายเกิดจากการกระแทกกับของแข็งอย่างรุนแรง ลักษณะบาดแผลที่ศีรษะของผู้ตายไม่เหมือนกับรอยล้อรถยนต์เหยียบทับ เป็นแผลที่ถูกกดทับด้านหลังของกะโหลกศีรษะกระแทกพื้นแตกละเอียดมากกว่าถูกรถเหยียบกดทับ
๒.๒ สอบสวนแพทย์ รพ.ศรีนครินทร์ขอนแก่น ผู้ตรวจชันสูตรศพผู้ตาย ให้ความเห็นว่า บาดแผลที่ศีรษะผู้ตายเกิดจากการกระแทกกับของแข็งไม่มีคมอย่างแรง ไม่แน่ชัดว่าเกิดจากถูกล้อรถยนต์กดทับหรือไม่ เนื่องจากไม่รอยดอกยางของรถยนต์ที่ศีรษะและใบหน้า
ผลตรวจชันสูตรศพทั้งข้อ ๒.๑ และ ๒.๒ พ่อแม่ของผู้ตายไม่พอใจผลการชันสูตรศพ พนักงานสอบสวนจึงเสนอให้ส่งภาพศพขณะที่ทำการผ่าศพที่ถ่ายโดยแพทย์ของ รพ.ศรีนครินทร์ขอนแก่น ไปยังสถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อมีความเห็น พ่อแม่ของผู้ตายรับข้อเสนอของพนักงานสอบสวน
๒.๓ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้ความเห็นว่ากรณีบาดแผลที่ศีรษะสอดคล้องกับแพทย์ของ รพ.นครพนม และ รพ.ศรีนครินทร์ขอนแก่น ไม่พบรอยดอกยางของล้อรถที่ตัวศพ ไม่สามารถยืนยันว่าศีรษะถูกกดทับด้วยล้อหรือไม่
๒.๔ สถาบันนิติเวช ให้ความเห็นว่า เป็นไปได้มากที่จะเกิดจากการถูกล้อรถยนต์เหยียบที่ศีรษะ เนื่องจากรูปศีรษะแบนไปด้านหนึ่งและกะโหลกแตกอ้าออกตามแนวประสาน แสดงถึงแรงอย่างมากกดกระทำโดยตรงต่อศีรษะที่อยู่นิ่ง
๓) ผลตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เกี่ยวข้อง
๓.๑ ผลตรวจรถยนต์บรรทุกยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ๑๐-๑๓๙๒ นครพนม คันที่พยานแจ้งพ่อแม่ผู้ตายว่าเป็นรถยนต์ที่เหยียบศีรษะผู้ตาย ปรากฏว่า ไม่พบร่องรอยเฉี่ยวชนบุบยุบทั้งด้านหน้า ด้านหลังและด้านข้างซ้ายขวาของรถยนต์แต่อย่างใด
๓.๒ ผลตรวจรถจักรยานยนต์คันที่ล้มอยู่ที่เกิดเหตุเป็นคันที่ผู้ตายขับขี่มา ปรากฏว่า บริเวณด้านหน้าและด้านหลังไม่พบร่องรอยเฉี่ยวชนบุบยุบแต่อย่างใด ด้านขวาพบรอยครูดโดยวัตถุแข็งผิวไม่เรียบ ด้านซ้ายที่ดุมแฮนด์รถถูกกระแทกหัก
พ่อของผู้ตายยืนยันว่ามี นายวิรัตน์ จิตมาตย์ เห็นรถยนต์บรรทุกสองแถวคันตามข้อ ๓.๑ ชนเหยียบทับศีรษะผู้ตาย จึงได้เชิญมาสอบสวนและชี้ที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า นายวิรัตน์ฯ ชี้ว่าเหตุเกิดในช่องทางที่ ๑ ซึ่งขัดแย้งขัดกับสถานที่เกิดเหตุที่พบ และจากสถานที่เกิดเหตุหากเกิดเหตุรถกระบะสองแถวมาชนเหยียบทับศีรษะของผู้ตายจริง รถยนต์กระบะสองแถวก็ต้องชนและเหยียบรถจักรยานยนต์ก่อนไปเหยียบศีรษะผู้ตาย และหากรถจักรยานยนต์ถูกชนจริงก็ต้องกระเด็นไปไกลกว่านี้และต้องมีรอยครูดตามพื้นถนนและมีเศษอุปกรณ์ของรถจักรยานยนต์คู่กรณีตกอยู่อย่างแน่นอน คดีนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ตายในข้อหา “ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย” ต่อมาวันที่ ๑ ต.ค. ๖๔ ได้นำสำนวนการสอบสวนส่งอัยการจังหวัดนครพนมเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link