หนุ่มสุรินทร์ยั้วหนุ่มศรีสะเกษ เมาหาว่าหลานสาวขายบริการใช้มีดปลอกผลไม้กระหน่ำแทงดับ

หนุ่มสุรินทร์ยั้วหนุ่มศรีสะเกษ เมาหาว่าหลานสาวขายบริการใช้มีดปลอกผลไม้กระหน่ำแทงดับ
เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 30 ธันวาคม 2564 ร.ต.อ.สหรัฐ เทียมไชย รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุชายถูกแทงบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 63 / 35 หมู่ 9 หมู่บ้านนิริมล ซอย 5 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวซึ่งมีโต๊ะหินอ่อนตั้งอยู่หน้าบ้านที่บริเวณพื้นถนนข้างม้าหินได้พบร่างของนายพรพิชิต แก้วสมุทร อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ นอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่กับพื้นตามลำตัวมีบาดแผลถูกแทงหลายแห่งได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพจึงได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลบางพลี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในที่เกิดเหตุได้พบมีดปลอกผลไม้ยาวประมาณ 4 นิ้วเปื้อนเลือดตกอยู่ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนาย วีระ เมินดี อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมาสุราอย่างหนัก หลังก่อเหตุได้ยืนรอยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามนายนฤเบศ สุขแฉล้ม อายุ 19 ปี ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ก่อเหตุซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าชาย และพรรคพวกอีก 2 คนรวมเป็น 4 คน ได้ตั้งวงดื่มสุรากันอยู่ที่บ้านตนซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำตั้งแต่หัวค่ำจนกระทั่งดึก จึงได้ย้ายมานั่งดื่มที่โต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ติดกันเนื่องจากร้านขายของชำปิดร้านตอน 5 ทุ่ม ในขณะที่ตนกำลังนั่งดื่มกับอย่างสนุกสนุกสนาน ผู้ตายซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาได้เข้ามานั่งร่วมวงดื่มสุราด้วย ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่หลานสาวของผู้ก่อเหตุเดินออกมาจากบ้าน ผู้ตายซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาได้พูดจาแทะโลมหาว่าหลานสาวผู้ก่อเหตุขายบริการ ทั้งที่ผู้ก่อเหตุได้ห้ามปรามแล้วแต่ผู้ตายก็ยังไม่หยุดพูดทำให้ผู้ก่อเหตุโมโหบวกกับความเมาจึงได้คว้ามีดปลอกผลไม้ที่วางอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุกระโดดเข้าไปกระหน่ำแทงผู้ตายหลายครั้งจนผู้ตายแน่นิ่งไป จนพรรคพวกที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้เข้าห้ามปรามก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายวีระ ผู้ก่อเหตุและพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ มาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.บางพลี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหานายวีระ ผู้ก่อเหตุว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เสียชีวิต ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป