ราชบุรี ชาวบ้านทนรับผลกระทบเพลิงไหม้โรงงานไม่ไหว ร้องหน่วยงานเข้ามาดูแล

ราชบุรี – ชาวบ้านทนรับผลกระทบเพลิงไหม้รง.ไม่ไหว ร้องหน่วยงานเข้ามาดูแล ชาวบ้านจากหมู่ 1 ต.น้ำพุ และพื้นที่ใกล้เคียงโรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรม ร่วมกับกลุ่มคนรักษ์ต้นนํ้า รวมตัวประชุมร้องเรียนยื่นหนังสือ อบต. หลังได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ใหญ่โรงงานฯ ทั้งกลิ่นเหม็นรุนแรง แสบจมูก บางรายต้องหนีไปอยู่ที่อื่น หวั่นเพลิงจะปะทุลุกไหม้ซ้ำ วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ศาลาอเนกประสงค์ ของหมู่ที่ 1 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ตัวแทนชาวบ้านกว่า 100 คน จากหมู่ที่ 1 ต.น้ำพุ และพื้นที่ใกล้เคียงโรงงานบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรม ได้ร่วมกับกลุ่มคนรักษ์ต้นน้ำ จ.ราชบุรี เข้าร่วมประชุมยื่นหนังสือร้องเรียน อบต.น้ำพุ หลังได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ใหญ่โรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรม แต่ไร้หน่วยงานเข้ามาดูแลแก้ปัญหาผลกระทบให้กับชาวบ้านอย่างจริงจัง โดยมีตัวแทนจาก รพ.สต.น้ำพุ เข้าร่วมประชุม และแนะแนวทางการปฏิบัติตัว การตรวจเช็คร่างกายหลังได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้

ทั้งนี้สืบเนื่องเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่โรงงานบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด หมู่ 4 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ส่งผลให้ประชาชนในหมู่ที่ 1 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่เป็นพื้นที่รอยต่อได้รับผลกระทบจากเขม่าควันไฟจากเพลิงไหม้ ร่วมทั้งกลิ่นเหม็นทำให้ประชาชนมีอาการ แสบจมูก ปวดหัว และนอนไม่หลับ บางรายมีผื่นคันขึ้นเต็มตัว ซึ่งปัจจุบันถึงจะดับไฟไปแล้ว แต่ก็ยังมีควันเขม่าปกคลุมหมู่บ้าน สร้างปัญหามลภาวะทางอากาศให้กับชาวบ้าน

ที่ผ่านมามีเพียงทาง รพ.สต.น้ำพุ ได้เข้ามาดูแลชาวบ้านในเบื้องต้น แต่ไร้หน่วยงานอื่นเข้ามาแก้ไขดูแลปัญหาให้กับชาวบ้าน ชาวบ้านจึงร่วมตัวกันประชุม และร่วมกับกลุ่มรักษ์ต้นน้ำ เข้ายื่นหนังสือถึง นายเส็งชัย พิมเพราะ นากอบต.น้ำพุ ให้เข้าช่วยดำเนินการระงับป้องกัน แก้ไข และจัดการปัญหาเหตุรำคาญดังกล่าว โดยเร่งด่วน ซึ่งจากผลกระทบที่ประชาชนได้รับนั้น อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตชาวบ้านได้ ต่อมาตัวแทนชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คน พร้อม นายธนู งามยิ่งยวด ประธานกลุ่มคนรักษ์ต้นน้ำ เดินทางไปที่ อบต.น้ำพุ เพื่อร่วมกันยื่นหนังสือร้องเรียน โดยมี นายเส็งชัย พิมเพราะ นายกอบต.น้ำพุ เข้ามารับหนังสือด้วยตนเอง พร้อมชี้แจงว่า วันที่เกิดเหตุตนไปอยู่ที่เกิดเหตุร่วมเฝ้าควบคุมสถานการณ์กับทางกู้ภัยตลอด และได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งทางอบต.จะดำเนินการตามหน้าที่ และอำนาจที่มีได้เท่านั้น ส่วนปัญหาในการเคลื่อนย้ายกากอุตสาหกรรมที่เหลือ ออกจากโรงงานฯ ต้องทำหนังสือไปทางอำเภอและจังหวัดต่อไป https://drive.google.com/file/d/14dSIVWjV8YHVhQdvt04PQcKyl2t3Vmiu/view?usp=sharing