ทุกข์ชาวบ้าน โรงงานซักรีดปล่อยควันพิษจนสุขภาพแย่ โร่ร้องสื่อวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาจริง

เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 31 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ภายในชุมชน พูลเจริญ หมู่ 6 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังจากได้รับการร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่ามีโรงงานซักรีดแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับชุมชนดังกล่าว ปล่อยควันพิษ ทำให้ชาวบ้านในชุมชนล้มป่วยหลายราย พร้อมทั้งชี้ให้ดูปล่อยควันที่โรงงานดังกล่าวกำลังปล่อยควันพิษออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าควันดังกล่าวมีสีเหลืองขุ่นบางช่วงจะเป็นควันสีดำอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเมื่อลมพัดมาทางชุมชนซึ่งมีกลิ่นเหม็นฉุน แสบคอ และมีการระคายเคืองตาและผิวหนัง โดยชาวบ้านบางรายยังนำโน็ตกระดาษที่มีการจดบันทึกวันเวลาการปล่อยควันพิษของโรงงานดังกล่าวออกมาให้ดู
ขณะที่ชาวบ้านยังออกมาให้ข้อมูลอีกว่า โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานรับจ้างซักรีดขนาดใหญ่ ที่ผ่านมาเมื่อปลายปี 61 ชาวบ้านเคยร้องเรียนผ่านสื่อไปแล้วครั้งหนึ่งจนมีหน่วยงานต่าง ๆ ลงพื้นที่และได้รับการแก้ไขไปแล้วครั้งหนึ่ง จนกระทั่งมาต้นปีนี้จนถึงปัจจุบันพบว่าโรงงานแห่งนี้กลับมาปล่อยควันพิษใส่ชุมชนอีกโดยปล่อยตลอดทั้งวันทั้งคืนจนชาวบ้านสุขภาพร่างกายแย่ลง เปรียบเสมือนตายผ่อนส่ง
ขณะที่หญิงชราอีกคนที่ได้รับผลกระทบบอกว่านอกจากควันพิษที่ฟุ้งกระจายในชุมชนแล้ว หากช่วงใดที่ลมหวนลงมาด้านล่าง เสื้อผ้าที่ตากไว้กลางแจ้งต้องเอาไปซักใหม่เพราะใส่แล้วจะเกิดระคายเคือง บางครั้งออกมายืนกลางแจ้งได้ไม่นานก็จะเกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก จนต้องรีบเข้าบ้าน ที่ผ่านมาเคยมีผู้ป่วยติดเตียงนอนสูดดมควันพิษจนปอดติดเชื้อเสียชีวิตแล้วก็มี
ขณะที่หญิงวัย 56 ปี ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใต้ลม ได้บอกว่า ที่บ้านตนได้รับควันพิษอย่างจังจนหายใจไม่ออก สุขภาพแย่ลงทุกวัน ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปหลายที่แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข มิหนำซ้ำยังมีชายปริศนามาถามหาตนเองและกลุ่มคนที่ออกมาร้องเรียนจนต้องหนีไปอาศัยอยู่กับลูกสาวชั่วคราวเพราะหวั่นเรื่องความปลอดภัย ที่ผ่านมาเคยมีตัวแทนของทางโรงงานเข้ามาที่ชุมชนและพูดจาเชิงข่มขู่ชาวบ้านโดยระบุว่าโรงงานแห่งนี้มีแบล็คเป็นถึงนักการเมืองใหญ่ในจังหวัด จนทำให้ไม่มีใครกล้าออกมาร้องเรียนเพราะหวั่นความปลอดภัย จึงอยากวอนให้กรมควบคุมมลพิษและกรมอุตสาหกรรมโรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สุ่มลงพื้นที่แบบจู่โจม โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้ากับโรงงานแล้วบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่และชุมชนแห่งนี้กว่า 300 ครัวเรือนได้มีอากาศที่ดีไว้หายใจต่อลมหายใจไปอีกนาน