วันที่ 5 กย.65 ที่วัดด่านตะกั่ว หมู่ที่ 14 ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านกว่า 50 คน รวมตัวกันไปหาขุดกลอยที่เขาจอมทองเพื่อนำมาประกอบเป็นอาหารพื้นบ้านสมัยโบราณ ลูกสืบทอดกันมาจากสมัยพ่อแม่มาถึงปัจจุบัน โดยชาวบ้านจะรวมตัวกันไปหาขุดกลอยในป่าเชิงเขาซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้าน 1 ปี จะยึดถือทำบุญประเพณีเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้นโดยรวมตัวกันนำรถไถและรถยนต์ออกไปช่วยกันขุดกลอยที่ขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่ในป่า กลอยเป็นพืชล้มลุกมีหัวใต้ดินมีลักษณะกลมรี กลอยจะออกหัวคล้ายกับเผือกหอมจะมีทั้งหัวเล็กและหัวใหญ่ กลอยป่ามี 2 ชนิด ชาวบ้านจะขุดแล้วนำมารวมกันนำมารับประทานเป็นอาหารว่างกินแทนข้าวได้ กลอย 1 ต้น จะมีหัวขนาดใหญ่วัดโดยรอบประมาณ 30 ซม.ขนาดรองลงมาประมาณ 10-15ซม.โดยใช้เสียมขุดออกจากดินซึ่งหัวจะฝังอยู่ในดินลึกประมาณ
10 ซม.มีลำต้นเป็นเถา
นายรัตนา วงษ์พันธ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 บ้านด่านตะกั่วกล่าวว่า ช่วงกลางเดือน 9 ทางวัดจะจัดงานตักบตรข้าวสารอาหารแห้งเพื่อความรักสามัคคีในชุมชุนและหมู่บ้านใกล้เคียง งานบุญทุกครั้งมีคนมาทำบุญเป็นจำนวนมาก อาหารที่นำมาทำบุญอาจไม่พอเลี้ยงผู้ที่มาร่วมทำบุญให้อิ่มจึงมีแนวคิดนำกลอยมานึ่งให้ผู้มาทำบุญได้กิน ซึ่งไม่มีคนนิยมหากลอยมาทำในงานบุญ
การขุดกลอยชาวบ้านทุกคนจะขุดเอาแต่หัวใหญ่ๆไปเท่านั้น หัวเล็กๆและต้นกลอยที่มีหัวติดอยู่จะเอาฝังดินไว้เพื่อให้กลอยขยายพันธ์ในปีถัดไปจะไม่สูญพันธ์ กลอยจะมีสองอย่าง คือกลอยข้าวเหนียวและกลอยข้าวเจ้าทั้งสองอย่างจะมีลักษณะแตกต่างกันกลอยข้าวเหนียวเนื้อสีเหลือง ส่วนกลอยข้าวเจ้าจะสีขาว ส่วนใหญ่จะนำมานึ่งรวมกันทั้งสองอย่างจะมีสีเหลืองปนสีขาวหลังจากขุดกลอยมาแล้วก็จะช่วยกันปอกเปลือกออกแล้วใส่ถุงปุ๋ยนำกลับมาล้างน้ำที่บ้าน
หลังจากล้างน้ำสะอาดแล้วจะใช้มีดฝานเป็นชิ้นบางๆแล้วนำไปแช่น้ำเกลือในอัตตรากลอย 2 กก.เกลือเม็ด 1กก.แช่ทิ้ง 3 คืนเพื่อให้เกลือกัดสารเมาออกจากเนื้อกลอยออกจนหมด เมื่อกลอยถูกความเค็มเนื้อจะนุ่มและคลายสารพิษออก หลังจากแช่น้ำเกลือ 3 คืนแล้วนำกลอยมาแช่ในน้ำจืด 1 คืน จากนั้นนำกลอยจืดไปนึ่งคลุกมะพร้าวคลุกน้ำตาลทรายแค่นี้ก็สามารถรับประทานกลอยนึ่งได้แล้ว
ศูนย์ข่าวเรื่องจริงผ่านเลนส์ จังหวัดปราจีนบุรี รายงาน
Leave a Reply