น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งที่อุบลฯ หลายชุมชนเริ่มได้รับผลกระทบ

วันที่ 19 ก.ย.65 นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้นายวิรุจวิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี รองนายกเทศมนตรรีเมืองวารินชำราบ ผู้แทนอำเภอวารินชำราบราบ ลงพื้นที่ ตรวจติดตาม และเยี่ยมให้กำลังใจ กำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 22 และเทศบาลเมืองวารินชำราบ ที่ร่วมกันบรรจุกระสอบทรายเสริมกั้นเป็นแนว เพื่อป้องกันน้ำมูลล้นตลิ่งไหล เข้าชุมชนท่ากอไผ่ เทศบาลเมืองวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนี้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 13 อุบลราชธานี และ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 11 อุบลราชธานี ได้สนับสนุนติดตั้งเครื่องสูบ จำนวน 2 เครื่อง เพื่อสูบน้ำท่วมขังพื้นที่ชุมชนท่ากอไผ่ ลงสู่แม่น้ำมูลอีกด้วย ทั้งนี้เทศบาลเมืองวาริชำราบ ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงขนของขึ้นที่สูงเตรียมพร้อมอพยพตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ นายวิรุจวิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี รองนายกเทศบาลเมืองวารินชำราบ และผู้แทนนายอำเภอเภอวารินชำราบ เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย มอบน้ำดื่มและยาสามัญประจำบ้านให้กับชุมชนหาดสวนสุข /หาดสวนสุข 1 ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดหาดสวนยา เทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลณ จำนวน 30 คัวเรือน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการที่มีฝนตกหนัก ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลสูงขึ้น และได้ระดับน้ำได้ล้นตลิ่งไหลเข้าสู่ชุมชน ฝั่งอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลฯ หลายชุมชนด้วยกัน อาทิเช่น ชุมชนเกตุแก้ว ท่าบ้งมั่ง หาดสวนยา หาดสวนสุข หาดสวนสุข 1 ท่ากอไผ่ ดอนงิ้ว รวมทั้งฝั่งตัวเมืองอุบลราชธานี ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ก็ได้มีน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าสู่พื้นที่ชุมชนวัดบูรพา 3 (บ่อบำบัดน้ำ) และ พื้นที่ชุมชนโนนบุ่ง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี ทำให้ราษฏรได้รับผลกระทบ จำนวน 18 ครัวเรือน
สำหรับระดับน้ำมูลเช้าวันนี้ ( 20 ก.ย.65 ) เวลา 06.00 น. ณ สถานี M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อยู่ที่ระดับ 7.71 ม. ️เพิ่มขึ้น 0.12 ม. ระดับตลิ่งฝั่งวารินชำราบ 7.00 ม. (ร.ส.ม.) ระดับน้ำล้นตลิ่ง ทางเทศบาลเมืองวารินชำราบ ได้แจ้งเตือนระดับวิกฤติ ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้รับทราบ ให้ขนของขึ้นที่สูง เตรียมพร้อมอพยพตลอด 24 ชม. และให้ติดตามประกาศ ข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุ แจ้งสายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง