“โฆษก สพฐ.ตร.”ยืนยัน แป้นคีย์บอดร์คอมพิวเตอร์ ไม่สามารถระเบิดจนทำให้คนเสียชีวิตได้ ย้ำ ห่วงการใช้งานนานเกินไปส่งผลต่อสุขภาพ

“โฆษก สพฐ.ตร.”ยืนยัน แป้นคีย์บอดร์คอมพิวเตอร์ ไม่สามารถระเบิดจนทำให้คนเสียชีวิตได้ ย้ำ ห่วงการใช้งานนานเกินไปส่งผลต่อสุขภาพ


เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2565 ที่ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร โฆษกสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวว่าจากเหตุการณ์นักเรียนชาย ชั้น ม.3 โรงเรียนวัดลาดปลาดุก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เสียชีวิตในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีการนำเสนอข่าวว่าเกิดจากคีย์บอร์ดระเบิด สร้างความตกใจให้กับเด็กนักเรียนและผู้ปกครองเป็นอย่างมาก ว่าการใช้คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์จะมีอันตรายรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้จริงหรือไม่

ต่อมา ตำรวจภูธรบางบัวทอง ร่วมกับ แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นนทบุรี คลี่คลายปมปริศนาดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ยืนยัน จากการสอบสวนอย่างละเอียด พบว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กชายเคราะห์ร้ายเสียชีวิตเกิดจากอาวุธปืน เนื่องจากบาดแผลมีลักษณะเป็นรูขนาดใหญ่ด้านหลังศีรษะเหนือท้ายทอย เมื่อตรวจสอบภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์อย่างละเอียดก็พบหัวกระสุนปืน 1 หัว จากการประมวลเหตุการณ์สันนิษฐานว่า ขณะที่ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ได้ถูกกระสุนปืนยิงเข้าท้ายทอย คมกระสุนทะลุออกหางคิ้วและหัวกระสุนมาถูกคีย์บอร์ดจนแตก ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์ครั้งแรกเข้าใจผิดว่าสาเหตุเกิดจากการระเบิดของคีย์บอร์ด ในเวลาต่อมาผู้กระทำความผิดได้ยอมรับสารภาพและถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายไปแล้ว
             

พล.ต.ต.วาทีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าได้สอบถามไปยัง พ.ต.ท.นิติ  อินทุลักษณ์  นวท.(สบ๓) กคพ.พฐก. ถึงกรณีดังกล่าวว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่แป้นคีย์บอร์ดจะระเบิดรุนแรงจนถึงขั้นทำให้ผู้ใช้เสียชีวิต พ.ต.ท.นิติ ฯ ยืนยัน ตลอดการทำงานในกลุ่มงานตรวจพิสูจน์อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับงานตรวจพิสูจน์หลักฐานและของกลางในคดีที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี ไม่พบกรณีแบบนี้เกิดขึ้น เนื่องจาก คีย์บอร์ดแบบปกตินั้นจะไม่มีอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับไฟฟ้าหรือพลังงานอื่นที่จะทำให้ระเบิดได้ มีเพียงคีย์บอร์ดแบบไร้สาย ซึ่งต้องใช้ถ่านหรือแบตเตอรี่ชาร์ต (Ni-MH-Battery) ถ้าใช้เป็นระยะเวลานานจนแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ จะทำให้เกิดสารเคมีรั่วไหล และอาจเกิดประกายไฟได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่รุนแรงจนทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้อย่างแน่นอน



ดังนั้น จึงเป็นคำตอบที่ทำให้หลายคนคลายความวิตกกังวลได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวสำหรับคนใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน คือ โรคตาที่เกิดจากคอมพิวเตอร์ (Computer Vision Syndrome : CVS) มากกว่า เพราะหากใช้สายตามองจอคอมพิวเตอร์นานๆ รวมถึงการรับรังสีที่แผ่ออกมาบริเวณหน้าจอคอมพิวเตอร์ ส่งผลกระทบต่อดวงตาจนทำให้เกิดตาล้า พร่ามัว และกระจกตาอักเสบได้ นอกจากนี้ ยังทำให้มีอาการปวดศีรษะ ต้นคอ ไหล่ และหลัง เนื่องจากนั่งทำงานที่ไม่เหมาะสมด้วย


ทั้งนี้ หากใครที่มีความจำเป็นจะต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรจะต้องพักสายตาเป็นระยะ โดยการหลับตาทุก 10 นาที ต่อการทำงาน 1 ชั่วโมงหมั่นเปลี่ยนอิริยาบถ อีกทั้ง ควรจัดหาโต๊ะ –เก้าอี้นั่งทำงานให้เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ  
 

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link