ชัย ดีเจดังเมืองชัยภูมิผันชีวิตมาเลี้ยงควายไทย มูลค่าตัวละกว่า 15 ล้าน

ชัยภูมิ#ดีเจดังเมืองชัยภูมิผันชีวิตมาเลี้ยงควายไทย มูลค่าตัวละกว่า15ล้าน หลังทำธุรกิจหมุนเวียน มาทั้งชีวิตและปัจจุบันได้หันมาเอาดีในการทำฟาร์มเลี้ยงกระบือหรือควายไทยตอนนี้มีประมาณ 35 ตัวมูลค่าอยู่ประมาณ 100 ล้านบาท
วันนี้ 8 ม.ค.66 นาย โสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ ที่ บ้านเลขที่ 434 หมู่ที่ 10 บ้านเล่า ตำบลบ้านเล่า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ได้พบกับ นางสาว วิรัญญา ผาแดง อายุ 45 ปี ดีเจดังเมืองชัยภูมิ กล่าวว่า เดิมทีตนมีอาชีพ ทำนา รายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ จึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปหางานและได้ทำงานเป็นสาวโรงงานที่กรุงเทพฯ อยู่ประมาณ 7 ปี พอมีเงินเก็บได้พอประมาณ ตนอยากจะกลับมาอยู่บ้านเกิดและอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง โดยได้เริ่มต้นจากการไปรับงานเย็บปักเสื้อผ้าจากโรงงานในกรุงเทพฯ เพื่อมาเย็บที่จังหวัดชัยภูมิ แล้วส่งให้โรงงานโดยในช่วงแรกก็ทำเพียง คนเดียว ต่อมาเริ่มหาเครือข่ายมาช่วยเย็บอยู่ที่บ้านของตน บางคนก็นำไปเย็บที่บ้าน ของเครือข่าย จนธุรกิจตัวนี้เริ่มโตขึ้นมาเรื่อยๆ ต่อมาตนคิดต่อว่าถ้าจะให้ธุรกิจดีขึ้น ต้องหาแนวทางประชาสัมพันธ์ให้ธุรกิจของตนให้มีคนรู้จักกว้างขึ้น จะทำอย่างไรต่อ จึงได้เกิดความคิดขึ้นโดยได้ตั้งสถานีวิทยุชุมชน ขึ้นเป็นของตนเอง และขายโฆษณาให้กับลูกค้าทั่วๆไป โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการรับโฆษณาจากลูกค้า ต่อมาได้มีความคิดว่าอยากจะมีสินค้าทำของตนเอง เพื่อมาโฆษณาขายเองตนจึงได้ติดต่อโรงงานเพื่อผลิตสินค้าจำหน่ายเอง ผลออกมายอดขายสินค้าที่เป็นของตนเอง ขายได้ดี เกินความคาดหมายเพราะดีขึ้นมากๆ

หลังจากเก็บเงินได้พอสมควรจึงได้หาซื้อที่ดินเพื่อเก็บไว้ เป็นของตนเองอีก ต่อมาเห็นพื้นที่ที่ดินที่ซื้อทิ้งไว้ของตนมีพวกวัชพืชหรือหญ้าขึ้นเต็มพื้นที่ไปหมด จึงเกิดความคิดว่าอยากจะหาสัตว์อะไรมาเลี้ยงดีที่มันกินหญ้าเป็นอาหาร โดยตนเองไม่ต้องจ้างคนงานมาตัดหญ้าที่เกิดขึ้น ตน เห็นว่าสัตว์ที่มันกินหญ้าก็คือวัวมันกินหญ้า จึงได้ซื้อวัวมาเลี้ยง และเห็นว่ามีคนจำนวนมาก เขานิยมเลี้ยงวัวกันและถ้าตนเลิกเลี้ยงก็สามารถขายให้คนอื่นๆได้ มีราคาด้วย ไม่ว่าจะเป็นวัวไทยหรือนำวัวจากต่างประเทศมาเลี้ยงก็ได้ราคาดี หลังจากที่เลี้ยงวัวได้ช่วงหนึ่ง ตนเองได้มีการขยายกิจการเพิ่มขึ้นโดยได้ซื้อวัวเพิ่มจนถึง ณ เวลานี้มีวัวอยู่ประมาณ 30 ตัว แต่ ณ เวลานี้ ตลาดวัวเริ่มราคาไม่ดี ตนจึงมีความคิดต่อยอดว่าเอาอะไรมาทำต่อเพื่อเพิ่มรายได้ จึงมองเห็นว่าน่าจะทำเป็นฟาร์ม โดยได้ตั้งชื่อฟาร์มว่า กุ้งนาง ควายงาม เมืองพระยาแลพร้อมกับศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับ กระบือหรือควายงาม พร้อมกับได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆที่มีความรู้เกี่ยวควายงาม จากนั้นจึงเริ่มหาควายมาเลี้ยงตัวแรกได้ไปซื้อมาจากจังหวัดมหาสารคราม และก่อนจะซื้อตนได้ตระเวนหาหลายๆที่ แต่ก็ยังไม่ได้ตามที่ต้องการสักเท่าไร และควายตัวแรกได้ซื้อมาในราคาตัวละ 8 แสนบาท ควายตัวนี้อายุเพียงแค่ 8 เดือนกว่าเท่านั้น และต้องหาซื้อเพิ่มเพื่อให้เขามีเพื่อน ก็เลยไปซื้อควายมาเพื่อเป็นเพื่อนตัวแรกโดยซื้อมาจากจังหวัดอุดรธานี ในราคา 3 แสน 6 หมื่นบาท จากนั้นก็ทยอยซื้อมาเรื่อยๆจนถึงเวลานี้ ในมีประมาณ 35 ตัว ถ้าคิดมูลค่าในตอนนี้ก็อยู่ประมาณ 100 กว่าล้านบาท และระหว่างนี้ก็มีการขายไปบ้างบางส่วน ขายตัวละ 5 แสน บ้าง 8 แสนบ้าง รวมแล้วก็ได้มาหลายล้านบาทพอสมควร และมีอีก 2 ตัว ที่มีคนมาขอซื้ออีก เป็นควายเพศเมีย โดยขอซื้อในราคาตัวละ 8 ล้านบาทโดยเฉพาะเจ้า ทอแสง ควายเพศเมียอายุ 3 ปี สูง 160 หนัก 1.300 ตัน ซื้อมาจาก จ.ชลบุรี ราคา 360,000 บาท และตอนนี้เขามาขอซื้อ 15 ล้านบาท แต่ตนยังไม่ยอมขายเพราะมีความผูกพันธ์ เหมือนสมาชิกในครอบครัวอีกชีวิตหนึ่ง จึงยังไม่ยอมขาย ถึงแม้จะเพิ่มราคาให้อีก มากกว่า 15 ล้านบาท ตนเองก็ยังต้องคิดดูก่อนเพราะความผูกพันธ์ที่มีให้กัน จึงยังไม่สามารถที่จะขายให้ใครได้ในตอนนี้

หลังได้ลงพื้นที่ไปดูกระบือที่ฟาร์ม ด้านนาย โสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้กล่าวว่า ที่จังหวัดชัยภูมิ ในปีนี้ซึ่งเป็นปีแรกที่จังหวัดชัยภูมิ ได้มีการจัดมหกรรมประกวดควายงามเพื่ออนุรักษ์ควาย ครั้งที่ 1ของจังหวัดชัยภูมิ โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 15 มกราคม 2566 นี้ที่สถาบันวิทยาลัยการเกษตรและเทคโนโลยี ชัยภูมิ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาและปรับปรุงรวมถึงการอนุรักษ์ควายไทยในวันที่ 15 มกราคมนี้ ที่จะมีการจัดงานในครั้งนี้จะมีควายจากในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ รวมประมาณมากกว่า 400 ตัว ที่จะเข้ามาประกวดในครั้งนี้ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องโดยเฉพาะพี่น้องชาวจังหวัดชัยภูมิ ของเรา ซึ่งเราเป็นพื้นที่จัดงานในครั้งนี้ตรงกับวันที่ 15 มกราคม ตรงกับการจัดงานเจ้าพ่อพญาแลพอดี ดังเพื่อที่จะเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้กับเกษตรกรของจังหวัดชัยภูมิของเราพี่น้องที่เลี้ยงควายพื้นเมืองเพื่อใช้งาน ได้มาดูและปรับปรุงสายพันธุ์ให้มีราคาที่สูงขึ้นทำให้เศรษฐกิจผู้เลี้ยงควายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะ ณ เวลานี้ราคาควายไทยในปัจจุบันนี้เบาๆก็อยู่ในหลักล้านทั้งนั้นเลย จึงอยากให้มาดู กันเยอะ โดยเฉพาะที่จังหวัดชัยภูมิของเรายังมีโรงเรียนควายไทยอยู่ที่อำเภอเนินสง่าด้วย ยังสามารถที่จะไปดูและศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องของควายไทยได้ที่โรงเรียนควายไทยของจังหวัดชัยภูมิได้อีกด้วย

คำหอม ชุมชน 02 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ///รายงาน

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link