ญาติแก๊งรุมทำร้ายหนุ่มร้านใบกระท่อม งัดหลักฐานที่ถูกอีกฝ่ายยกพวกไล่ฟัน ตำรวจไม่ดำเนินการ จึงมาล้างแค้นกันเอง


จากกรณี กลุ่มเจ้าถิ่นยกพวกชักปืนขู่ นายคมกฤษ(หรือเจมส์) อ่อนพลับ อายุ 27 ปี พ่อค้าขายใบกระท่อม ก่อนจะรุมทำร้ายก่อนแล้วพยายามลากขึ้นรถ จนแฟนสาวต้องก้มกราบขอชีวิต จึงยอมปล่อยก่อนจะกระหน่ำตีไม่ยัง หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ราดน้ำมันจุดไฟจะเผาร้าน ก่อนจะขึ้นรถพากันหลบหนีไป เหตุเกิดที่ร้านขายใบกระท่อมแห่งหนึ่ง ภายในซอยวัดเสาธงกลาง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อกลางดึกวันที่ 13 มกราคม 2566 จนกระทั้งสามารถจับกุมนายไพศาล (หรือมด) สุขนิ่มนวล อายุ 33 ปี พร้อมพวกอีก 3 คน ได้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 14 มกราคม 2566 นายธนากร (หรือมอส) การะสอน พร้อมครอบครัว ได้เดินทางมาพบผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรมจากสังคมและขอให้ฟังความสองฝ่าย พร้อมนำคลิปจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ นายมด นายมอส นายตี้ ภรรยานายตี้ และภรรยานายมด ได้พากันขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน ไปที่ร้านของนายเจมส์ (คนเจ็บ) เพื่อเคลียร์กัน ก่อนที่จะพากันขี่รถจักรยานยนต์แยกย้ายกันหนีโดยมีกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน พร้อมอาวุธครบมือ วิ่งไล่มา ก่อนที่ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุมจับภาพขณะที่ หนึ่งในกลุ่มของ นายมด จะวิ่งเข้าไปภายในซอยโดยมีวัยรุ่นวิ่งตามมา 2 คน พร้อม ก่อนจะมีรถจักรยานยนต์ขี่ตามหลังมา 2 วัยรุ่นดังกล่าวจะหันกลับมาแล้วใช้อาวุธในมือฟาดเข้าไปที่หลังของคนขี่รถจักรยานยนต์ ก่อนจะเดินกลับไปทางสามแยก ขณะที่กล้องบริเวณหน้าคลังสินค้าแห่งหนึ่ง สามารถจับภาพขณะที่กลุ่มของ นายมด 2 คน ขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณป้อมยาม ก่อนจะมีวัยรุ่น 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามมา กลุ่มของนายมด 2 คน จึงวิ่งหนีเข้าไปภายในคลัง ส่วนวัยรุ่น 1 คนได้วิ่งตามไป อีก 2 คนได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่ตามไปจากด้านนอกคลังสินค้าก่อนที่ทั้งหมดจะหลุดกล้องไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 และนายมอส ยังนำใบแจ้งความที่ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.บางเสาธง มายืนยัน อีกทั้งยังเปิดบาดแผลที่ถูกคู่กรณีใช้มีฟันกลางหลัง ให้ผู้สื่อข่าวดู
นายมอส ออกมาให้สัมภาษณ์เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังพร้อมหลักฐานกล้องวงจรปิด โดยบอกว่า คืนวันที่ 12 มกราคม 2566 เวลาประมาณ ตีสาม ขณะที่ ตนเอง และ พี่ชายอีกคนที่ชื่อตี้ และ ภรรยา รวมทั้งหมด 3 คน เลิกงานกำลังจะต้องพากันขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน แต่มาทราบเรื่องจากคนในคลังว่า ถูก บังนาน และ นายเจมส์ พร้อมพวกดักรอทำร้ายร่างกาย อยู่ทางกลับบ้าน อีกทั้งฝั่งคู่กรณียังเอ่ยปากอ้างชื่อ นายดม ที่เป็นพี่ชายของตนเอง ว่ารู้จักกับนายมดพี่ชาย ตนจึงโทรตาม นายมด ให้ออกมาช่วยเคลียร์ให้เพราะถูกอีกฝั่งดักรอทำร้าย จนนายมด ขี่รถจักรยานยนต์มากับภรรยา ในชุดนอน เพื่อมารับกลุ่มตนเองออกจากคลัง จากนั้น นายมด จึงพาตนเองและคนอื่นรวมทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย ตนเอง นายตี๋ นายมด ภรรยาของนายมด และภรรยาของนายตี๋ พากันขี่รถจักรยานยนต์ไปที่หน้าร้านของ นายเจมส์ ที่ขายใบกระท่อมอยู่ เพื่อ นายมด จะเจรจาขอให้ตนเองได้กลับบ้าน แต่พอไปถึงและจอดรถก็ถูกฝ่ายของ นายเจมส์ และ บังนาน เข้าทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ไม้เบสบอลตีที่หัวของ นายมด จากนั้นพบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นเพื่อนของคู่กรณีเกือบ 10 คน ที่ดักรออยู่ในตลาดฝั่งตรงข้ามร้านขายใบกระท่อม พากันวิ่งกรูเข้ามาจะทำร้าย โดยมีมีดติดมือกันมาเกือบทุกคน ทำให้ตนเองและเพื่อนในกลุ่มต่างแตกกระเจิงจนต้องบิดรถมอไซด์หนีตายแยกกันไปคนละทิศคนละทาง ตนเองตัดสินใจขี่รถเลี้ยวกลับไปที่คลังแต่มาถูกกลุ่มของ นายเจมส์ ที่ดักรอตรงแยกใช้มีดฟันเข้าที่กลางหลังอย่างจัง จึงรีบหนีตายไปที่หน้าทางเข้าคลังสินค้า แต่พบว่ามีการขับรถไล่ตามมาอีกจึงรีบหนีเข้าไปในคลังแต่ก็ถูกไล่ตามมาจนมี รปภ. มาช่วยจึงรอดตายมาได้ ขณะที่ ภรรยาของนายตี๋ ต้องทิ้งรถวิ่งหนีตายมาอีกฝั่งของถนนแต่ถูก นายเจมส์ ยกพวกพร้อมมีดวิ่งไล่ทำร้ายจนไปล้มลงบนถนนจนกระทั่งมีการร้องขอชีวิต ส่วน ภรรยาของนายมด วิ่งหนีไปอีกทางจนรอดชีวิตเช่นกัน หลังเกิดเหตุตนเองเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลและกลับมาแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนของ สภ.บางเสาธง โดยไปขอดูกล้องบริเวณดังกล่าวจาก อบต.บางเสาธง ซึ่งสามารถจับภาพได้อย่างชัดเจน
ด้านนางสาว มิ้น ภรรยาของนายตี๋ เล่าว่า ชนวนเหตุมาจาก การที่ นายบังนาน ถูกตำหนิเรื่องการทำงานในคลังสินค้า สาเหตุมาจากหัวหน้าแผนกของ นายบังนาน มาแจ้งกับตนเอง ในฐานะหัวหน้าคนงานของบริษัทซับ ว่า บังนาน มีการลาและหยุดงานบ่อยครั้ง ทำงานไม่เต็มที่มาครึ่งวันลาครึ่งวันทำงานสองวันลา ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมของระบบ จึงมีการเสนอแบนการทำงาน ซึ่งตนเองในฐานะหัวหน้าซับ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้สั่งแบนและไม่มีอำนาจสั่งแบนพนักงาน และก่อนจะเกิดความเข้าใจผิด ตนเองได้เรียก บังนาน มาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ด้วยเหตุและผล แต่ บังนาน เข้าใจว่าตนเองเป็นคนสั่ง จึงมีการออกมาขู่ทำร้ายแฟนของตน ทำให้มีการแจ้งไปยัง นายมด ที่เป็นพี่ชายให้ออกมาช่วย จน นายมด ถูกกระทำก่อน พอไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ตำรวจจับกุมดำเนินคดี ซึ่งตนเองและ นายมอส จำหน้าของผู้ก่อเหตุได้หลายคนหนึ่งในนั้นคือ นายเจมส์ (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) คืนวันเกิดเหตุที่กลุ่มของตนถูกไล่ฟัน วันนั้นถ้าไม่ได้รถกระบะพลเมืองดี หยุดรับขึ้นรถไปหลบในที่ปลอดภัย ตนเองก็อาจถูกอีกฝั่งนั้นรุมทำร้ายเพราะเข้าใจผิดว่าการถูกแบนงานมาจากตน และตนเองยืนยันว่ากลุ่มที่ก่อเหตุไล่ฟันตนนั้น หนึ่งในนั้นมี นายเจมส์ ถือเหล็กปลายแหลมวิ่งตามตนเองมาเพื่อจะทำร้ายร่างกายตนเอง ซึ่งตนเองได้ชี้ตัวระบุยืนยันกับทางตำรวจไปหมดแล้วแต่กลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ


ขณะที่ นางสาวแป้ง หนึ่งในครอบครัวคนสนิท นายมด และ นายมอส บอกว่า หลังจากเกิดเหตุที่ นายมดและพวกถูกรุมทำร้ายร่างกายก็มีการไปแจ้งความและชี้ยืนยันตัวบุคคลจนทราบตัวเกือบหมดแต่ไม่มีการดำเนินการใด ๆ จากทางตำรวจ ทำให้ นายมด ไม่พอใจตัดสินใจพาเพื่อนมาเอาคืนดังกล่าว จึงอยากวอนให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมอีกฝ่ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายในส่วนของครอบครัว นายมด และเพื่อนก็เตรียมประกันตัวสู้คดีด้วยเช่นกัน ยืนยันทางฝั่งนี้ก็จะดำเนินคดีที่ไปรุมทำร้ายทางครอบครัวเรา ส่วนประเด็นที่บอกว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่โทรไปหาฝ่ายคู่กรณีเพื่อเสนอเงิน 50,000 เพื่อขอให้เรื่องจบ ตนเองยืนยันว่าไม่ใช่ฝ่ายตนเองเสนอ แต่เป็นฝ่ายของมารดา นายเจมส์ (คนเจ็บ) เสนอมา บอกว่า นายเจมส์ เจ็บไม่มาก ให้จ่ายเงิน 50,000 เพื่อแลกกับการให้เรื่องจบ ซึ่งคุยกันตอนเช้า จากนั้นทางครอบครัวก็ไปหายืมเงินมา เพื่อเตรียมมอบให้ตามที่เสนอมาแต่พอติดต่อกลับมาตอนเย็นบอกไม่รับแล้ว ซึ่งหากจะดำเนินคดีกลุ่มของ นายมด ก็ต้องว่ากันไปตามขบวนการของกฎหมาย แต่ในส่วนฝ่ายตนเองที่ถูกกระทำก่อนก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้วยเช่นกัน


อัญมณี คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ 095-5543516

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link