ตำรวจเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด หนุ่มวัย 30-35 ปี ควบ จยย. เสียหลักชนแทนเเบริเออร์สมองกระจายดับอนาถ ย่านสุขสวัสดิ์
วันที่ 29 มกราคม 2566 เวลา 16.00 น.
ร้อยตำรวจเอก อธิคม แสวงจิตต์ รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งชนแท่นแบริเออร์ แล้วภายในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย จุดเกิดเหตุบริเวณหน้าปั้มน้ำมัน ปตท. สาขาบางประกอก จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานแพทย์นิติเวชศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาสาสมัครไปถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าปั้มน้ำมัน ปตท. สาขาบางประกอก ถนน สุขสวัสดิ์ แขวง บางประกอก เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะถนน 4 เลน มุ่งหน้าจากแยกบางประแก้ว ไปทางสามแยกราษฎร์พัฒนา จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเลนที่ 3 ขวาสุดส่วนบริเวณเลนที่ 4 มีแท่นแบริเออร์วางอยู่ตามแนวถนนเส้นขาวมีการปิดการจราจรเพื่อก่อสร้างรางรถไฟฟ้าสายสีม่วง พบศพชาย 1 ราย อายุประมาณ 30-35 ปี ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่กับพื้นผิวถนน มีรอยบาดแผลบริเวณหน้าผากเป็นแผลเปิดกว้างจนมันสมองและเลือดไหลกระจายเต็มพื้นผิวถนน ในลักษณะการแต่งกายสวมใส่เสื้อคลุมแขนยาวสีดำทับเสื้อด้านในเป็นเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีแดง กางเกงขาสั้นสีกลมท่าคาดแดง สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ ภายในตัวผู้ตายไม่พบเอกสารไดๆติดตัว นอกจากจะมีบุหรี่ 1 ซอง และโทรศัพย์มือถือ 1 เครื่อง ห่างไปประมาณ 20 เมตร พบรถจักระยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น คลิก 125 สีดำ ทะเบียน 5 กข 4083 กรุงเทพมหานคร ล้มตะแคงคว่ำอยู่บนพื้นผิวถนนในสภาพชุดสีด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน ตรวจสอบบริเวณโดยรอบพื้นผิวถนน พบเป็นรอยทางยาวกว่า 50 เมตรเป็นลักษณะลอยครูดไถลไปกับพื้นถนน และพบร่องรอยการชนอย่างแรงอยู่บนแท่นแบริเออร์จนมีชิ้นส่วนของเศษสมองมนุษย์ติดอยูและมีลอยเลือดสาดกระเซ็นติดอยู่บนผืนผ้าไวนิวจนเห็นได้อย่างชััดเจน และบริเวณด้านในไซต์งานก่อสร้างยังพบกับเศษชิ้นส่วนสมองตกอยู่บนพื้นอีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการบันทึกภาพที่พบภายในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
จากการสอบถาม นาย ต่าย อายุ 38 ปี ผู้ที่แจ้งเหตุกล่าวว่าตนได้ยินเสียงดังมากจึงเดินออกมาจากปั้มน้ำมันแล้วก็เห็นว่ามีเหตุรถชนแต่ก็ไม่ได้เห็นตอนต้น เห็นแต่ตอนที่ผู้ตายกลิ้งไปพร้อมรถจักรยานยนต์แล้วก็ไปนอนแน่นิ่งอยู่บริเวณดังกล่าวในลักษณะนอนคว่ำหน้ามีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ก็คิดว่าไม่น่าจะรอดแล้วจึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันที
ส่วนทางด้าน นาย ปรีชา พันธ์วิพฤก อายุ 59 ปี กล่าวว่าได้ยินเสียงดังตูมแล้วก็ผู้ตายก็กลิ้งมาแล้วมีรถไม่ทราบชนิดมาเหยียบทับอีกครั้ง แต่แนวแบริเออร์นั้นก็อยู่ในเขตเส้นขาวไม่ได้ล้ำออกไปนอกเส้น ที่คิดว่ามีรถมาเหยียบทับนี่ก็ไม่ได้เห็นกับตาแต่เห็นจากสภาพศพหัวเปิดขนาดนั้นก็เลยคาดว่าน่าจะมีรถมาเหยียบทับแต่อย่างไรแล้วก็ต้องมาขอดูกล้องอีกทีว่าจะเป็นอย่างที่ตนคาดคิดไว้หรือเปล่า
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์นิติเวชศิริราชมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชก่อนที่จะสรุปสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวได้ และต้องลงพื้นที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดโดยรอบอีกครั้ง เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และจะเร่งติดต่อให้ญาติผู้เสียชีวิตมารับเอกสารเพื่อนำไปรับร่างผู้เสียชีวิตนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
Leave a Reply