เตือนภัย คนเร่ร่อนเผาบ้านย่านประชาอุทิศ

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 02.30 น.

พันตำรวจโท ทนงศักดิ์ ปลั่งกลาง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยประชาอุทิศ 33 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย ทุ่งครุ และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขต ราษฎร์บูรณะ ) ร่วมกับอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบแสงเพลิงและกลุ่มควันภายในบ้านเลขที่ 388/1 ซอย ประชาอุทิศ 33 แยกย่อยซอยที่ 4 ถนน ประชาอุทิศ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลังบ้านต้นเพลิงดังกล่าวอยู่บริเวณหัวมุมพอดีและถูกปล่อยทิ้งร้างมานานแล้วหลายปีไม่มีผู้ดูแล และไม่มีผู้อยู่พักอาศัย จนกระทั่งมีกองขยะกองโตอยู่บริเวณหลังบ้าน และภายในบ้านหลังดังกล่าวเจ้าหน้าที่กวาดขยะได้นำเอาไม้กวาดและอุปกรณ์นำไปเก็บไว้ แสงเพลิงและกลุ่มควันขนาดใหญ่เกิดขึ้นบริเวณชั้นล่างของตัวบ้านดังกล่าวและลุกลามจนเต็มพื้นที่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย เร่งระดมน้ำระงับเหตุใช้เวลา 15 นาที จึงระงับเหตุการณ์ดังกล่าวได้แสงเพลิงหมดไป แล้วตรวจสอบภายในอาคารดังกล่าวไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว

และจากการสอบถาม
นาย ปณัฐ แสงอาทิตย์ อายุ 40 ปี บอกเล่าว่า ตนอยู่ที่ปั้มปากซอยประชาอุทิศ 33 มีคนมาบอกว่า ไฟไหม้ที่ประชาอุทิศ 33 แยก 4 ตนจึงรีบเข้ามาดู ก็เห็นกลุ่มควันขึ้นจากภายในบ้านร้าง เป็นลักษณะอาคารพาณิชย์ พอตนเดินไปทางด้านหลัง เข้าไปดูก็เห็นว่าไหม้กองขยะในห้อง เป็นพวกถุงพลาสติก กระดาษ ขยะที่ไม่ใช้แล้ว ก็จะมีคนเร่ร่อนมาพักอาศัยอยู่ กลางวัน พนักงานกวาดพื้นจะใช้วางเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้ ส่วนลักษณะของคนเร่ร่อนจะเป็นผู้ชายชอบนุ่งผ้าโสร่งเดินอยู่แถวนี้ประจำ

ส่วนนาย บัณฑิต มะลิหอม อายุ 48 ปี เจ้าของบ้านข้างๆ บอกว่า ตนเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ยังไม่ทันได้หลับเลย ก็ได้ยินเสียงดังเหมือนอะไรตกหล่น ตอนนี้ประมาณ ตี 1 กว่าๆ จึงเดินออกมาดู ก็เห็นควันลอยออกมาจากบ้านข้างๆ สักพักก็มีไฟออกมา ซึ่งเป็นบ้านร้าง ไม่มีผู้พักอาศัย ตนจึงแจ้งประสานไปยังรถดับเพลิง เพราะบ้านตนเป็นโรงงานเย็บผ้า ด้วยถ้าลุกลามจะยุ่งกันไปใหญ่ ตนมาอยู่ 7-8 ปีแล้ว มาอยู่บ้านนี้ก็ร้างมานานแล้ว ตอนเช้าๆ จะมี พนักงาน กทม. จะเข้ามาเอาพวกไม้กวาด อุปกรณ์มาเก็บ เพราะชั้นล่างไม่ได้ใช้อะไร จึงเอามาฝากวางไว้

เบื้องต้นสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าน่าจะเกิดจากคนเร่ร่อนแอบเข้าไปจุดไฟเผาขยะภายในบ้านแล้วเกิดลุกลามจนควบคุมไม่ได้ก็เลยรีบวิ่งหนีไปกับความมืดอย่างรวดเร็ว ส่วนกรณีดังกล่าวเคราะห์ดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยมาระงับเหตุได้เร็วจึงไม่ได้ลุกลามไปติดบ้านหลังอื่นไม่อย่างนั้นคงจะสร้างความเสียหายมากกว่านี้ก็เป็นได้