ราชบุรี – กู้ภัยกว่า 20 ชีวิต ช่วยแบกร่างเพื่อนกู้ภัยหนักเกือบ 200 กก. กลับบ้านเกิด

พี่น้องกู้ภัยสว่างราชบุรี กว่า 20 ชีวิต ต้องช่วยกันสับเปลี่ยนแบกหามร่างเพื่อนอาชีพ นายแสน หนุ่มกู้ภัยร่างตัวโต ใจดี สู้ชีวิต ที่มีหนักเกือบ 200 กก. เพื่อนำศพเคลื่อนย้ายกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านเกิด ตามคำสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย แม่เผยเจ้าตัวมีน้ำใจชอบงานกู้ภัย ถึงแม้ร่างกายจะเป็นอุปสรรค

วันที่ 24 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังรพ.โพธาราม หลังได้รับทราบว่า จนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี จุดนางแก้ว เกือบ 20 ชีวิต และเพื่อนกู้ภัยในสังกัดกู้ภัยสว่างราชบุรี ได้ช่วยกันสลับเปลี่ยนอุ้มร่างอันไร้วิญญาณของเพื่อนร่วมอาชีพ เพื่อเคลื่อนย้ายศพ นายสุทธิสิทธิ์ หรือ นายแสน นุตตะโร อายุ 32 ปี จนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี นามเรียกขาน นางแก้ว 12 ที่เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว นายแสน มีรูปร่างสูงใหญ่ และมีน้ำหนักตัวเกือบ 200 กก. โดยช่วงระหว่างขนย้ายศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลศพที่วัดเข่าค่าง ต.นางแก้ว อ.โพธาราม ซึ่งเป็นบ้านเกิด นายแสน

จนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก อย่างทุลักทุเล เพราะเนื่องจาก นายแสน มีร่างกายที่ใหญ่และน้ำหนักเยอะถึงเกือบ 200 กก. จนเพื่อนๆจนท.กู้ภัยฯ ต้องช่วยกันสลับเปลี่ยนหามร่างมาใส่รถ แต่จนท.กู้ภัยฯทุกคนก็ตั้งใจยินดีช่วยกัน เพื่อพานายแสนกลับไปยังวัดบ้านเกิด ตามเจตนารมณ์ที่ผู้ตายสั่งเสียไว้ ซึ่งนายแสน ได้เป็นจนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี มากว่า 10 ปี เพราะชอบช่วยเหลืองานด้านสังคม และเป็นคนมีน้ำใจ แม้จะไกลหรือใกล้ก็จะไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

แม้ร่างกายอาจจะไม่เอื้ออำนวย แต่นายแสน มีใจรักและความพยายาม ในการออกไปช่วยเหลือผู้อื่นเกือบทุกเคส ซึ่งการจากไปของนายแสน สร้างความเศร้าโศกเสียใจกับญาติ ครอบครัว และเพื่อนร่วมอาสาทุกคน ที่ต้องมาเสียจนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี ที่มีความสามารถในการชอบช่วยเหลือผู้อื่น และเป็นที่รักของเพื่อนๆร่วมอาชีพ โดยบรรยากาศในงานศพ เป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ซึ่งร่างของนายแสน ไม่สามารถนำใส่โลงศพได้ จึงต้องนำใส่โลงเย็นไว้ และตั้งโล่งเปล่าแทนบนที่ตั้งหน้าศพ โดยกำหนดสวดบำเพ็ญกุศลทั้ง 5 คืน

นางเสาร์ เกิดเทศ อายุ 58 ปี และนายสิงห์ นุตตะโร อายุ 60 ปี พ่อและแม่นายแสน เล่าทั้งน้ำตาว่า ลูกชายทำงานกู้ภัยมากว่า 10 ปี เพราะชอบและรักงานกู้ภัยมาก และออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไม่เคยขาด แม้เคสน้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดอื่นๆเจ้าตัวก็ไปช่วยเหลือประชาชนไม่เคยขาด เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เกิดน้ำท่วมทางภาคอีสาน เจ้าตัวยอมลางาน เพื่อไปช่วยคนที่เดือดร้อน แม้ทางษริษัทยันยืนถ้าไปหลายวันจะให้ออกจากงาน

ช่วงเจ้าตัวมีชีวิตอยู่ มีนิสัยเป็นคนอัธยาศัยดี มีน้ำใจชอบช่วยเหลือคนอื่นมาตั้งแต่เด็กๆ ถึงแม้ตัวเองจะมีน้ำหนักมากถึง 200 กก. ก็ออกไปช่วยเหลือคนอื่นไม่ขาด โดยที่บ้านมีฐานปานกลาง แม้เสื้อจนท.กู้ภัยฯ ที่เจ้าตัวใส่ขาดแล้วขาดอีก เขาก็เอามานั่งเย็บใส่ทำงาน โดยไม่รบกวนขอจากใครเพราะเสื้อเป็นแบบไซส์พิเศษมีราคาค่อนข้างแพง จนช่วงเดือนมกราคม 66 เจ้าตัวเริ่มป่วยเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ

จนวันที่เขามีอาการหนักก่อนจะเสียชีวิต เจ้าตัวได้พูดกับแม่ว่า “แม่หนูไม่สู้แล้วน่ะ หนูสู้ไม่ไหวแล้ว หนูไม่อยากสร้างภาระให้กับพ่อและแม่ ไม่อยากให้ต้องมาเหนื่อยมาดูแล เพราะตัวหนูใหญ่มีน้ำหนักเยอะ สงสารพ่อกับแม่ต้องมาช่วยดูแล” ซึ่งเธอพยายามปลอมใจ และพูดว่าแม่ดูแลหนูได้ไม่ต้องห่วง แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็จากไป ซึ่งเธออยากบอกลูกชายว่า “แม่ภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้มาก ที่มีจิตอาสาช่วยเหลือคนอื่น ถึงแม้ร่างกายตัวเองจะไม่เอื้ออำนวย แต่ก็ยังพยายามจะทำให้ได้เพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อน”

ขณะที่ นายสุรินทร์ ครบเบญจะ อายุ 49 ปี หน.ประจำจุดนางแก้ว เปิดเผยว่า น้องแสน เป็นจนท.กู้ภัยฯที่มีวินัย มีน้ำใจ จะชอบช่วยงานของหน่วยเป็นประจำ ไม่เคยขาดแม้สักงาน บางครั้งต้องออกหน่วยไปต่างจังหวัดหลายๆวัน น้องแสน ยอมลางาน เพื่อจะไปช่วยเหลือคนทันที โดยไม่คิดอะไรทั้งสิ้น ซึ่งน้องแสน ปฏิบัติหน้าที่งานด้านกู้ภัย ได้ทุกอย่างเหมือนเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ แม้จะมีร่างกายใหญ่โตและน้ำหนักถึงเกือบ 200 กก. แต่ร่างกายก็ไม่ใช่อุปสรรค

ไม่ว่าจะงานเก็บศพผู้เสียชีวิต ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ หรือจับสัตว์มีพิษ น้องแสนจะไปถึงจุดเกิดเหตุก่อนใคร การจากไปของน้องแสน สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานกู้ภัยทุกคน แม้วันนี้ที่ต้องนำร่างน้องกลับมาบำเพ็ญกุศลศพที่วัดบ้านเกิดของน้อง ทุกคนก็ช่วยกันสลับเปลี่ยนแบกร่างของน้องกลับมาที่วัดจนได้ เพราะทุกคนตั้งใจมาทำให้น้องตามคำสั่งเสียอย่างเต็มที่เป็นครั้งสุดท้าย ในการพาน้องกลับบ้านกัน

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link