ราชบุรี – สุดเหี้ยม รัวจ่อยิงลุงวัย 67 ดับคาเพิงพักในบ่อกุ้ง

ราชบุรี – สุดเหี้ยม รัวจ่อยิงลุงวัย 67 ดับคาเพิงพักในบ่อกุ้ง

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 18 มี.ค.66 ร.ต.อ.ธนเดช โคลงพิมาย รอง สว.(สอบสวน) สภ.หลักห้า ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกอาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตที่ในเพิงพัก บริเวณบ่อกุ้ง หมู่ 6 ต.บัวงาม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ณัฏฐ์ พิพัฒน์สวัสดิ์ ผกก.สภ.หลักห้า พร้อมจนท.ชุดสืบสวนภ.จว.ราชบุรี และจนท.ชุดสืบสวนสภ.หลักห้า, จนท.พิสูจน์หลักฐานภ.จว.ราชบุรี, แพทย์เวรรพ.ดำเนินสะดวก และจนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี

ที่เกิดเหตุพบเป็นเพิงพักไม้ ล้อมด้วยสังกะสี ภายในพบศพ นายแฉล้ม หรือ ลุงน้อย ผึ้งผัน อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/5 หมู่ 3 ต.โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีแดง ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน นอนหงายบนเตียงนอนภายในเพิงพัก โดยมีบาดแผลจากลูกกระสุนปืนที่บริเวณหลังมือขาว 1 นัด, ต้นแขนขวา 1 นัด และบริเวณศรีษะ 2 นัด และท้ายกับใบหูขาว 1 นัด ที่บริเวณเตียงนอนยังพบปลอกลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่บริเวณบนเตียง 4 ปลอก บริเวณพื้นภายในเพิงพัก 3 ปลอก และด้านนอกเพิงพัก 1 ปลอก และยังพบหัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ทั่วบริเวณที่เกิดเหตุจำนวน 5 นัด โทรศัพท์มือถือของผู้ตายตกอยู่บริเวณผนังเพิงพัก

จากการสอบสวน นางสมพร ผึ้งผัน อายุ 64 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การว่า สามีและเธอมีอาชีพเลี้ยงกุ้ง โดยเธอและสามีจะอยู่เฝ้าบ่อกุ้งคนละบ่อ ซึ่งห่างออกไปประมาณเกือบ 500 ม. สามีของเธอเป็นคนธรรมะธรรมโม ทุกวันจะเข้าไปช่วยงานก่อสร้างที่วัด ก่อนจะกลับมาให้อาหารกุ้งทุกเย็น และเฝ้าบ่อกุ้ง ซึ่งก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.00 น. เธอได้ยิงเสียงคล้ายปืนดังขึ้นจำนวน 8 นัด แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะสามีเป็นคนดีและเป็นที่รักของชาวบ้าน จึงคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับสามี

จนช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. เธอพยายามโทรหาสามี เพื่อตามมากินข้าวที่บ้านพักที่เธอเฝ้าบ่อกุ้งอยู่ แต่สามีไม่รับสายทำให้เธอแปลกใจ จึงขี่รถจยย.มาดูกับลูกชาย ที่เพิงพักที่สามีนอนเฝ้าบ่อกุ้ง ก็พบสามีนอนอยู่บนเตียงนอนในเพิงพัก เธอจึงพยายามปลุกและพบว่าสามีถูกอาวุธยิงจนเสียงชีวิต ทำให้เธอกับลูกชาวทำอะไรไม่ถูก จึงรีบโทรบอก นายสมนึก ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับสามีให้เข้ามาดูและโทรแจ้งจนท.ตำรวจให้มาตรวจสอบ

นางสมพร ภรรยาผู้เสียชีวิตยังเล่าอีกว่า ที่ผ่านมาสามีของเธอเป็นคนดีชอบทำบุญ ขยันทำงาน ชอบช่วยเหลือคนอื่น จนเป็นที่รักของชาวบ้าน และไม่เคยมีปัญหากับใคร จึงไม่ทราบสาเหตุที่สามีถูกจ่อยิงเผาขนอย่างเหี้ยมโหดแบบนี้ ที่ครอบครัวของเธอทำใจยอมรับไม่ได้ ถ้าสามีของเธอเป็นคนไม่ดี เกเรคนอื่น เธอจะไม่ว่า แต่สามีของเธอเป็นคนดีทำไมต้องมาถูกฆ่าแบบนี้ ครอบครัวของเธอจึงอยากให้ทางจนท.ตำรวจ เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดเนินคดีให้ได้

ขณะที่ นายสมนึก ศรีอ่วม อายุ 67 ปี เพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ขณะที่ตนกำลังต้อนวัวเลี้ยงอยู่บริเวณคันดินบ่อกุ้ง ห่างจากเพิงพักของผู้ตาย 300 เมตร ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ตนได้ยิงเสียงดังคล้ายปืนดังขึ้น 8 นัด ตนจึงพยายามโทรหาผู้ตายถาม ว่าใครยิงปืนแต่ผู้ตายไม่รับสาย ตนจึงต้อนวัวไปเลี้ยงอีกคันดินหนึ่ง จนช่วงเวลา 18.00 น. ภรรยาผู้ตายได้โทรหาตน และบอกว่าผู้ตายถูกคนมาแอบยิงจนเสียชีวิต ตนจึงรีบกลับมาดูที่เพิ่งพักของผู้ตาย เมื่อมาถึงเห็นผู้ตายเสียชีวิตแล้วจริง จึงรีบโทรแจ้งจนท.ตำรวจให้มาตรวจสอบ

ซึ่งภายในเพิงพัก ยังพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่เต็มไปหมด ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับตนยังคุยกันอยู่ตามปกติ ก่อนที่ตนจะแยกไปเลี้ยงวัวแถวๆคันบ่อกุ้ง ซึ่งตอนที่ตนได้ยินเสียงดังคล้ายปืน แต่คิดว่าคงเป็นเสียงดังจากที่อื่นจึงไม่ได้เดินมาดู และไม่คิดว่าใครจะมาทำร้ายผู้ตาย เพราะผู้ตายเป็นคนดี ที่ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร ถึงขั้นเป็นคนธรรมมะธรรมโมเข้าวัดทุกวัน ตนจึงไม่รู้ว่าใครมาก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหดกับผู้ตายได้ และไม่รู้ว่าก่อเหตุเพราะสาอะไร แต่อาจเป็นเรื่องจากที่ดินที่ผู้ตายเลี้ยงกุ้ง ที่ตนแบ่งให้ผู้ตายเช่าก็เป็นได้ เพราะพักหลังได้มีคนมาของเช่าที่ดินทั้งหมด แต่ผู้ตายกับตนไม่ยอมปล่อยให้เช่าต่อ

ด้าน หลวงพ่อเด่น รักษาเจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม วัดที่ผู้ตายเข้าไปช่วยงาน ได้เล่าว่า โยมผู้ตายมักจะไปทำบุญและช่วยงานที่วัดอยู่เป็นประจำ วันนี้โยมผู้ตายได้มาช่วยงานที่วัดจนบ่ายสามโมง ก่อนจะขอกลับไปให้อาหารกุ้ง จนมารู้จากญาติผู้ตายว่าผู้ตายถูกคนร้ายลอบยิงจนเสียชีวิตแบบนี้ อาตมารู้สึกเสียใจและเสียดายคนดีๆแบบนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาโยมผู้ตาย ไม่เคยเล่าว่าทะเลาะกับใคร และถูกใครปองร้าย ซึ่งระหว่างที่โยมผู้ตายมาช่วยงานที่วัดก็ไม่เคยมีเรื่องหรือปัญหากับใคร เพราะโยมผู้ตายเป็นที่รักของทุกคน

เบื้องต้นทางจนท.ตำรวจ ได้ให้ทางจนท.พิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บหลักฐาน ในที่เกิดเหตุรวม 18 จุด พร้อมเชิญพยานในที่เกิดเหตุ ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.หลักห้า เพื่อเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยยังไม่ให้น้ำหนักประเด็นใดๆในการก่อเหตุ เนื่องจากผู้ตายเป็นคนดี และเป็นที่รักของชาวบ้าน ส่วนร่างของผู้ตายได้ส่งผ่าชันสูตร ที่ศูนย์นิติเวชรพ.ราชบุรี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป.

สุจินต์ นฤภัย ( เต้) จ.ราชบุรี

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link