ปราจีนบุรี แถลงข่าวพบวัสดุกัมมันตรังสี

ปราจีนบุรี แถลงข่าวพบวัสดุกัมมันตรังสี

เมื่อเวลา11.00 น .วันนี้20 มี.ค.66ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบรีรายงานว่าที่ห้องศูนย์การเรียนรู้(402) ศูนย์ราชการใหม่ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี
นายรณรงค์ นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วย นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจ.ปราจีนบุรี พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี,นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์เลขาธิการ สนง.ปรมาณูเพื่อสันติ นางเพ็ญนภา กัญชนะรองเลขาธิการสนง.ปรมาณูเพื่อสันติ นายกิตติกวิน อรามบุญ หน.ปฏิบัติการฉุกเฉินทางริวเคลียร์และรังสี

ร่วมแถลงต่อสื่อมวลชนสรุปรายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม – 137 (Cesium – 137 Cs -137)สูญหาย ในจังหวัดปราจีนบุรี ความว่าตามที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย โดยการประสานจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ว่าเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2556 เวลา 09.00 น. พบว่ามี วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม – 137 (Cesium – 137 Cs -137) มีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอกมีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นใน และห่อหุ้มด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว4นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม และมีป้ายติดรายละเอียด แสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี และมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ ของบริษัทเนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด สูญหายไปจากที่ติดตั้ง โดยวัสดุกัมมันตรังสีผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 28 ปี (ติดตั้งใช้งานในปี 2538) นั้น

ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม – 137(Cesium – จังหวัดปราจีนบุรี 137, Cs -137) สูญหาย ขึ้นเพื่อบูรณาการและประสานการปฏิบัติ 1. การค้นหา

ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครอง แรงงานจังหวัดปราจีนบุรี อำเภอศรีมหาโพธิ์ อำเภอกบินทร์บุรี เข้าทำการตรวจวัดรังสี ออกปฏิบัติงานทันที โดยการ สนับสนุนของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ด้วยการนำรถห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ พร้อมอุปกรณ์ประกอบด้วย (1) เครื่องวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีแบบบอกทิศทางใช้เพื่อสำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ไอโซโทปรังสี รวมถึงบอก ทิศทางของรังสีที่มากระทบกับเครื่องมือวัด (2) อากาศยานไร้คนขับพร้อมเครื่องวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีสำรวจ ปริมาณรังสีในพื้นที่ขนาดใหญ่พร้อมวิเคราะห์ไปโซโทปรังสีในพื้นที่เกิดเหตุ (3) เครื่องสำรวจปริมาณรังสีใช้สำรวจ ปริมาณรังสีในพื้นที่เกิดเหตุ ในสถานที่เสี่ยง ได้แก่

  1. บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด เช่น การค้นหาภายในโรงงาน พื้นที่ข้างเคียงรอบ โรงงาน ร้านค้าของเก่าโรงหลอม แหล่งจำหน่ายเศษวัสดุประจำของโรงงาน รัศมีรอบโรงงาน ร้าน/บริษัทรับซื้อของ เก่า โรงงานหลอมเหล็ก ในพื้นที่

  2. ให้กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ตรวจเช็คข้อมูลกล้องวงจรปิด (CCTV) ในรัศมี รอบ เขตอุตสาหกรรมทุกตัว บริเวณจุดที่สำคัญ เช่น สี่แยก ตรวจรถเข้า-ออก บริเวณโรงงาน บ้านพักคนงาน โดยรอบ โรงงาน ประสานหาข้อมูลจากคนรับซื้อของเก่า และกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น พนักงานบริษัทฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูล เบาะแสในการค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม -137

  3. ขอความร่วมมือการเผยแพร่ข่าวสารทุกช่องทาง โดยเฉพาะการจัดทำภาพอินโพกราฟฟิก และจัดทำ ประกาศเป็นเสียงบันทึกลงแผ่น CD แจกจ่ายให้ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน นำไปปิดป้ายประกาศ และประกาศเสียตามสาย ทางหอกระจายข่าประจำหมู่บ้าน รวมทั้งจัดแถลงข่าว รวมตลอดถึง ขอความร่วมจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ นครนายก นครราชสีมา สระแก้ว และฉะเชิงเทรา เพื่อเผยแพร่ข่าวสารให้ถึง ประชาชนมากที่สุด รวมทั้งการเพิ่มช่องทางการสื่อสารเพื่อแจ้งเหตุ ที่จำง่ายที่สุด เช่น 1784 1296 191

  4. ประชุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐและ สถานประกอบการ บริษัทเนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด) เพื่อมอบหมายภารกิจและติดตามผลการดำเนินงานทุกวันตั้งวันที่ 13 – 18 มีนาคม 2556 เวลา 15.00 น. ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี

  5. ด้านสาธารณสุขและการแพทย์

  6. เตรียมความพร้อม ด้านการรักษาพยาบาล ได้แก่ ยา เวชภัณฑ์ไม่ใช่ยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงการติดตาม สถานการณ์อย่างใกล้ชิด

  7. ติดตาม เฝ้าระวัง สังเกต ซักถามประวัติ อาการ เมื่อมีคนไข้ มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการได้รับ ผลกระทบจากสารเคมี เข้ามาทำการรักษา

  8. ประชาสัมพันธ์

  9. มอบสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี อำเภอทุกอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกประกาศเพื่อประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้แก่ประชาชนรับทราบแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องในทุกรูปแบบ

  10. มอบสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี รายงานและเผยแพร่ผลการ ปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด

ปราจีนบุรี อำเภอศรีมหาโพธิ และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ) ทั้งผลงานที่ผ่านและแผนการดำเนินงานในวันถัดไป ทุกวัน

4.การตรวจพบ

4.1 สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสี ในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจาก เศษเหล็กที่เลิกใช้แล้ว ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 5 แห่ง

1) วันที่ 17 มีนาคม 2566
เวลา 14.30 น.16.00น. ได้แก่ บริษัท หยงซิง สตีล (ไทยแลนด์) จำกัด
139 หมู่ 13 ต.หัวหว้า
อ.ศรีมหาโพธิ
2.วันที่ 19 มีนาคม 2566 ตั้งแต่ 09.30 น. – 18.30 น. ได้แก่ 2.1) บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เลขที่518/1 หมู่ที่ 4 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี 2.2) บริษัท เค ที พี สตีล จำกัด เลขที่ 111หมู่ที่ 5 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี 2.3) บริษัท ที เอส บี เหล็กกล้า จำกัด เลขที่ 502 หมู่ที่ 4 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ 2.4) บริษัท สิงห์ไทย สตีล จำกัด เลขที่ 122 หมู่ที่ 11 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ 4.2 ปส.ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสี ในการตรวจสอบ เพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิด ของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม
137หรือไม่

4.3 ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่ง มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ในฝุ่นโลหะที่ ได้จากผลิตโลหะ

4.4ผู้เชี่ยวชาญของ ปส. ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบ พบว่าโลหะที่ได้จาก กระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137

4.5 เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่า ระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติตาม ปริมาณรังสีในธรรมชาติ นอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศ น้ำ บริเวณโดยรอบโรงงานพบว่า ระดับรังสีอยู่ ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติ ไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อม

4.6 การปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ในฝุ่นแดง เกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิล ที่รับ ซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะ และเมื่อวัสดุ กัมมันตรังสีซีเซียม-137 เข้าไปในกระบวนการหลอม ซีเซียม-137 จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ ในเตาหลอม ซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมด ทำให้ ซีเซียม-137 จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอม ซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อม และถูกจัดเก็บ ควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมด ดังนั้นฝุ่นโลหะ ปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงาน

ผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใด 4.7 ปส. ได้ดำเนินการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงาน

ใกล้เคียง 4.8 สามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัด และ ถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสาร กัมมันตรังสีซีเซียม-137 สู่สิ่งแวดล้อม ไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณ

4.9ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
แล้ว

ศูนย์ข่าวเรื่องจริงผ่านเลนส์ประจำจังหวัดปราจีนบุรีรายงาน

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link