เปิดตัว “ทนายปอปลา” สวมสีเสื้อ รวมไทยสร้างชาติ สู้ศึกเลือกตั้งเขต 6 อุบลราชธานี

เปิดตัว “ทนายปอปลา” สวมสีเสื้อ รวมไทยสร้างชาติ สู้ศึกเลือกตั้งเขต 6 อุบลราชธานี
วันนี้ ( 20 มี.ค.66 ) ผู้สื่อข่าวของเรา รายงานถึงบรรยากาศการเมืองระดับชาติที่จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ขณะนี้ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จากทุกพรรคการเมืองต่างเร่งติดตั้งป้ายแนะนำตัว พร้อมกับลงพื้นที่พบปะพ่อแม่พี่น้องประชาชนกันอย่างหนัก เพื่ออ้อนขอคะแนน และ แนะนำนโยบายพรรคให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ บางพื้นที่มีการปราศรัยตามหมู่บ้านต่างๆ บางพื้นที่ ว่าที่ผู้สมัครลุยหาเสียงแบบเคาะประตูบ้าน และร่วมงานบุญประเพณีต่างๆที่หมู่บ้านหรือชุมชนจัดขึ้น และยังมีกลยุทธ์ในการหาเสียงอีกมากมายหลากหลายวิธีการที่ว่าที่ผู้สมัครจากแต่ละพรรคนำมาใช้ในการลงพื้นที่หาเสียง ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
เขตเลือกตั้งที่ 6 จ.อุบลราชธานี ประกอบด้วย อ.เขมราฐ อ.นาตาล และ อ.โพธิ์ไทร เป็นอีกเขตเลือกตั้งหนึ่งที่มีการแข่งขันกันสูงทุกครั้งในการเลือกตั้งส.ส.ที่ผ่านๆมา ซึ่งเขตนี้จะมีนักการเมืองจากตระกูลใหญ่ในพื้นที่ผูกขาดยึดครองจับจองเก้าอี้ส.ส.ในเขตนี้มายาวนาน แต่ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในโอกาสอันใกล้นี้ ได้มีคนหนุ่มรุ่นใหม่ ไฟแรง ความรู้ดี มีวิสัยทัศน์ ได้เปิดตัวลงสู้ศึกเลือกตั้ง ด้วยการสวมสีเสื้อค่ายรวมไทยสร้างชาติ และเมื่อเธอลงพื้นที่ก็ได้รับความนิยมจากประชาชนขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ว่าที่คู่แข่งจากหลายๆค่ายต่างหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามกัน เธอคือ นางสาว รุจิรา กุลวงศ์ หรือ ทนายปอปลา นั่นเอง
นางสาวรุจิรา กุลวงศ์ หรือ ทนายปอปลา ปัจจุบันอายุ 34 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ บ้านตาแหลว หมู่ที่ 5 ตำบลหัวนา อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นลูกคุณพ่อวิบูลย์ กุลวงศ์ คุณแม่อัจฉราวดี กุลวงศ์ (นามสกุลเดิม โสดากุล ) จบการศึกษาระดับ ปริญญาโท สาขา นิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี พ.ศ. 2559 ระดับปริญญาตรี สาขา นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปี พ.ศ. 2554 ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนเบญจะมะมหาราช จ.อุบลราชธานี และประกาศนียบัตรวิชาว่าความ พ.ศ.2557
ประสบการณ์ทำงาน ของนางสาวรุจิรา กุลวงศ์ มีดังนี้ เป็นอาจารย์ประจำ คณะนิติศาสตร์ ตำแหน่งหัวหน้าสาขาวิชานิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอิสเทิร์น , ทนายความสำนักงาน รุจิรา กุลวงศ์ ( พ.ศ. 2557 ถึง ปัจจุบัน ) , คณะกรรมการสภาทนายความ ภาค 3 ( พ.ศ. 2565 – 2568)

ทนายรุจิรา กุลวงศ์ ได้บอกถึงเหตุผล และ แรงจูงใจที่ลงเล่นการเมืองระดับชาติ ในครั้งนี้ ว่า ตลอดเวลาที่ดิฉันเป็นอาจารย์สอนกฎหมายในมหาวิทยาลัย และเป็นทนายความ ได้เห็นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมกับความไม่เป็นธรรมทางกฎหมายซึ่งปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ล้วนก่อเกิดมาจากระบบ โครงสร้างทางกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม และความไม่เท่าเทียม ซึ่งมุ่งคุ้มครองสถานะของผู้คนในสังคมบางกลุ่ม ที่ระบบการเมืองวางจัดไว้ให้อยู่ในฐานะผู้มีสิทธิพิเศษในทางการเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจก็ดี ด้านสังคมก็ดี และด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษาก็ดี ดิฉันจึงอยากเข้าไปทำการเมืองที่ดี หากมีโอกาสได้รับการเลือกตั้งให้เป็นผู้แทนของพ่อ แม่ พี่ น้อง ประชาชนในสภาผู้แทนราษฎรดิฉัน มีความตั้งใจอยากเสนอแก้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเอารัดเอาเปรียบประชาชน ซึ่งกฎหมายเหล่านั้นมีสภาพไม่ต่างไปจากเรือโบราณ ที่ผุพังทรุดโทรมแล้ว ยกตัวอย่างเช่น กฎหมายเกี่ยวกับที่ดินทำกิน ยังมีประชาชนอีกมากมายที่เดือดร้อนกับปัญหาที่ดินซับซ้อนกับที่ดินของรัฐ หรือที่ดินที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ทั้งที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า หรือกฎหมายว่าด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ กับ อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก จะเหลื่อมลํ้าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้ประชาชนต้องกลายเป็นคนจน และความยากจนโดยปริยาย
ทนายรุจิรา กุลวงศ์ ได้บอกถึงเหตุผลที่เลือกเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า เนื่องจากพรรครวมไทยสร้างชาติ นั้น มีอุดมการณ์ ที่ตอบโจทย์กับตัวดิฉันโดยมีแนวนโยบายที่ชัดเจนในการสร้างความเท่าเทียม และเป็นธรรม มีแนวนโยบายที่จะแก้กฎหมายให้สอดคล้องกันทั้งระบบ และมุ่งมั่นที่จะทำการเมืองแนวใหม่ที่เน้นการสร้างผลงานให้ประชาชน และสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชน และพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ทำให้มีการกระจายความเจริญออกไปทั่วทุกภูมิภาค ชึ่งจะเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนแบบยั่งยืน และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนเป็นสำคัญ และที่สำคัญ ท่าน นายก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และหัวหน้าพรรค ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ต่างก็เป็นคนซื่อสัตย์ – ซื่อตรง – ไม่โกงทุจริต มองประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

สำหรับการลงพื้นที่พบปะพ่อแม่พี่น้องประชาชน ในเขตเลือกตั้งที่ 6 อุบลราชธานี เพื่อเสนอนโยบายของพรรคและเพื่อขอคะแนน ทนายรุจิรา กุลวงศ์ ได้เล่าว่า แนวทางการหาเสียงในพื้นที่ ดิฉันเห็นว่า โดยสภาพทั่วๆไปแล้ว ในการหาเสียงเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นการเมืองท้องถิ่นก็ดี การเมืองในระดับชาติก็ดี จะมีการหาเสียงกันในลักษณะเป็นการจัดตั้งแกนหัวคะแนน ในหมู่บ้านต่างๆในเขตเลือกตั้ง เพื่อวางกลไกรวบรวมประชาชนไว้เพื่อให้ประชาชนเลือกบุคคลที่ตกลงกันไว้โดยไม่ถูกต้อง และเป็นธรรม ชึ่งตัวผู้สมัคร ส.ส. มิได้เข้าถึงหรือรับทราบในปัญหาความต้องการ หรือรู้ในความทุกข์ สุขของประชาชนแต่อย่างใด เมื่อได้เป็น ส.ส. แล้ว ก็จะตัดขาดและไม่ผูกพันความเป็นผู้แทนของประชาชนอย่างแท้จริง
โดยส่วนตัวของดิฉันแล้วจะทำการหาเสียงที่เข้าถึงประชาชนทุกหมู่บ้านในเขตพื้นที่หรือเขตเลือกตั้งที่ 6 ที่ดิฉันจะลงรับสมัคร เพื่อพบปะ พ่อ แม่ พี่ น้อง ประชาชน แนะนำตัว เสนอนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมทั้งรับฟังปัญหา ความต้องการของพ่อ แม่ พี่ น้อง ประชาชน จดบันทึกมาวิเคราะห์แนวทาง แผนงาน /โครงการ เพื่อเสนอเป็นนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป

นอกจากนี้ ทนายรุจิรา กุลวงศ์ ยังได้กล่าวอีกว่า หากดิฉัน ได้รับโอกาสและความไว้วางใจจาก พ่อ แม่ พี่ น้อง ประชาชนชน ให้เข้าไปเป็นตัวแทนพ่อแม่พี่น้องในสภา ดิฉันจะนำเอาความรู้ ประสบการณ์ และความเชื่อมั่นในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ความถูกต้องดีงาม ยืดมั่นในความซื่อสัตย์ จริงใจ ขยัน อดทน เป็นหลักในการทำงานเพื่อประโยชน์ของพ่อ แม่ พี่ น้อง ประชาชนเป็นสำคัญ โดยมีมีความตั้งใจที่อยากเปลี่ยนแปลง ดังนี้
1. ด้านการศึกษา ดิฉันอยากเห็นความเท่าเทียมทางการศึกษา อยากเห็นประชาชนทุกคนมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาให้มากขึ้น และควรเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าเรียนได้อย่างที่เขาอยากเรียน และในปัจจุบันหลักสูตรจะเน้นเฉพาะในด้านความรู้เพื่อสอบแข่งขัน แต่ไม่ได้เน้นเรื่องคุณธรรมจริยธรรม คำว่าการศึกษามิได้หมายถึงแค่หลักสูตรในห้องเรียน ซึ่งเพียงแต่เรียนให้จบมีความรู้ทางวิชาการ เท่านั้น จะต้องมีคุณธรรมจริยธรรมด้วย ดังนั้น การศึกษาควรส่งเสริมให้เด็กโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีคุณภาพ ไม่ใช่มีแต่ความรู้ทางวิชาการเพียงอย่างเดียว
2. ด้านเศรษฐกิจ ดิฉันอยากส่งเสริมพัฒนาให้อำเภอเขมราฐ เป็นจังหวัดเขมราษฎร์ธานี โดยให้ อำเภอเขมราฐ อำเภอ นาตาล อำเภอโพธิ์ไทร เป็นเมืองหน้าด่านแห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC โดยใช้ประโยชน์จากบรรยากาศริมฝั่งโขง หากใครได้มาเขมราษฏร์ธานีเสมือนมานั่งริมชายทะเลหัวหิน หรือริมโขงเชียงของ และดิฉันอยาก สานงานต่อ โครงการก่อสร้างถนนทุกสาย ทางมอเตอร์เวล รถไฟรางคู่ มาบรรจบกันที่ สะพาน ไทย ลาว แห่งที่ 6 อำเภอนาตาล : นครเพ็ง

3. ด้านสังคม : ทุกปัญหาในสังคมไทย มีต้นเหตุมาจากระบบ โครงสร้างทางกฎหมายที่ไม่เท่าเทียม และเป็นธรรม ดิฉันอยากผลักดันให้มีการแก้กฎหมายทั้งระบบ ออกกฎหมายให้ประชาชนมีความเท่าเทียมกันในทางกฎหมาย และเป็นธรรม เพื่อลดความแตกต่างระหว่างรายได้ของคนจน กับ คนรวย และแก้กฎหมายเกี่ยวกับที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิให้สามารถมีสิทธิในที่ดินทำกิน และแก้ปัญหาที่ดินทับช้อนกับที่ดินของรัฐที่ยืดเยื้อมานาน ปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ One Map
ดังนั้น การแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียม และความไม่เป็นธรรมดังกล่าวนี้ดิฉัน นางสาว รุจิรา กุลวงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 6 อุบลราชธานี พรรครวมไทยสร้างชาติ อยากให้ พ่อ แม่ พี่ น้อง ประชาชนทุกคน ได้มองกลับไปดูหรือทบทวนว่า เราจะยอมให้ความไม่เท่าเทียมกันในกฎหมาย หรือไม่เป็นธรรมในสังคมคงมีอยู่อีกต่อไปโดยไม่มีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเท่ากับเป็นการรักษาระบบที่ทำลายความเป็นธรรมของสังคมส่วนรวม แต่อย่างไรก็ตาม ดิฉันก็อยากฝากถึงพ่อ แม่ พี่ น้อง ประชาชน ในเขตเลือกตั้งที่ 6 อำเภอเขมราฐ อำเภอนาตาล อำเภอโพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ได้โปรดเมตตา และให้โอกาสดิฉัน ทนาย รุจิรา กุลวงศ์ ด้วยค่ะ : นางสาวรุจิรา กุลวงศ์ กล่าว.

ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวัดอุบลราชธานี / ข่าว.

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link