ช่วงสายของวันที่ 7 เมย.66 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พระลูกวัดวัดหนองคล้า ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี บอกโยมให้ช่วยแจ้งกู้ภัยฯมาช่วยจับงูออกจากกุฏิให้ด้วย เมื่อคืนมีงูเห่าตัวใหญ่หนีหมาเลื้อยเข้าท่อระบายน้ำห้องน้ำหลังกุฏิ ทางด้านหลังกุฏิ จึงรีบวิ่งมาด้านหน้ากุฏิแล้วรีบปิดประตูห้องน้ำกุฏิปูนชั้นเดียว แต่ก็ยังไม่เห็นตัวงูเห่ายาว 80 ซม. ตัวดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ประสานขอกำลังอาสาสมัครมาช่วยจับงูเห่าออกจากกุฏิพระ
พระสุรพล มหาปุญโญ พระลูกวัดกล่าวว่า เมื่อเวลา22:00 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ยินเสียงหมาเห่าอยู่หน้ากุฏิจึงออกมาส่องไฟดูพบว่า งูเห่ากำลังหนีหมาที่กำลังไล่งูตัวดังกล่าวมาอยู่หน้ากุฏิ เมื่องูหันมาเห็นตนเองส่องไฟอยู่ด้านหน้างูเห่าจึงแผ่แม่เบี้ยขู่แล้วเลื้อยหนีหมาไปทางด้านหลัง จึงตามมาทางด้านหลังและเห็นงูเห่ามุดเข้าไปในท่อระบายน้ำห้องน้ำ ตอนนั้นรู้สึกตกใจมากจึงรีบวิ่งมาทางด้านหน้ากุฏิเกรงว่างูจะเลื้อยเข้าไปในห้อง ขณะปิดประตูห้องน้ำไว้เพื่อไม่ให้งูเลื้อยเข้ามาในห้องนอนไม่พบตัวงู ในใจก็คิดว่างูน่าจะอยู่ในห้องน้ำจึงปิดประตูห้องน้ำไว้กระทั่งรุ่งเช้าบิณฑบาต บอกโยมให้ทราบ ให้บอกคนมาช่วยจับงูออกจากกุฏิด้วย ก่อนหน้านี้ งูเห่าเคยมากินไข่ไก่แจ้ไปแล้ว 2 ครั้งและเห็นกับตาว่างูเห่าคาบไข่กินอยู่เต็มปากแล้วเลื้อยหนีไป
ต่อมานายพีระพล จีนสกุล และนส.กฤษณา ช่างต่อ อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี และอาสาสมัครพิทักษ์งูจังหวัดปราจีนบุรี มาช่วยจับงูเห่าในกุฏิโดยมีชาวบ้านมาดูการจับงูของเจ้าหน้าที่กู้ภัย โดยส่องไฟฉายส่องหางูอยู่ในห้องเก็บของที่ติดกับห้องน้ำ 5นาที จึงพบงูเห่านอนขดอยู่ในห้องเก็บของ จึงจับงูตัวดังกล่าวออกมาหน้ากุฏิ
นายพีระพล กล่าวว่างูเห่าที่พบเป็นงูเห่าพ่นพิษสยามเพศเมีย มีพิษต่อระบบประสาท ถูกกัดให้รีบล้างแผลแล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาโดยด่วน งูตัวนี้จะนำส่งสถานเสาวภาเพื่อที่จะทำการรีดพิษเพื่อทำเซรุ่มรักษาโรคต่อไป
ศูนย์ข่าวเรื่องจริงผ่านเลนส์ จังหวัดปราจีนบุรี รายงาน
Leave a Reply