สืบนครบาลรวบ 2 หนุ่มขายปืนแบลงค์กันและทำปืนไทยประดิษฐ์ขายโลกโซเชี่ยลในช่วงก่อนการเลือกตั้งส.ส.

สืบนครบาลรวบ 2 หนุ่มขายปืนแบลงค์กันและทำปืนไทยประดิษฐ์ขายโลกโซเชี่ยลในช่วงก่อนการเลือกตั้งส.ส.

ตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศลน.ตร. ระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ให้สืบนครบาลจัดชุดลาดตระเวนออนไลน์ทำการลาดตระเวนตรวจสอบเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมก่อนการเลือกตั้งดังกล่าว สืบนครบาลได้ตรวจพบเพจ “ปืนเถื่อน” โดยได้ส่งสายลับเข้าแฝงตัวไปยังกลุ่มปิด ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อกลุ่ม “คนเล่นปืน” สั่งอาวุธปืนส่ง และเครื่องกระสุนปืนทางพัสดุไปรษณีย์เป็นอันตรายต่อสังคมโดยเฉพาะในช่วงระดมก่อนการเลือกตั้งนี้

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่างรอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง, พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชนะชัย ศิริ, พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ชัยยุทธ ศักดิ์เพชร รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ทำการจับกุมตัว
1. นายอรรถพล ศรีสุข อายุ 32 ปีอยู่ที่ 21 หมู่ที่ 7 ตำบลหน่อม อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด
2. ทองคำ พิระภาค อายุ 29 ปีอยู่ที่ 149/103 หมู่ที่ 4 ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี

 นายอรรถพลฯ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 หมายจับ ได้แก่ 1) หมายจับศาลอาญาที่ 1271/2566 ลง 22 เมษายน 2566 ในข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” 2) หมายจับศาลอาญา ที่ 1273/2566 ลง 22 เมษายน 2566 ในข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ยึดของกลาง คือ
1.อาวุธปืนลูกซองสั้น แบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด ส่งผ่านระบบขนส่ง(พัสดุ)
2. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 2 นัด
3.ชิ้นส่วนโลหะลักษณะคล้ายโครงปืน จำนวน 3 ชิ้น
4. ชิ้นส่วนโลหะลักษณะคล้ายลำกล้องปืน จำนวน 2 ชิ้น
5. อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 5 กระบอก
6. อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก
7. อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .22 ยี่ห้อ ROHM RG10
8. อาวุธปืนแบลงค์กันสภาพระหว่างรอการประกอบ 6 กระบอก
9. อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์สภาพระหว่างรอการประกอบ 1 กระบอก
10. กระสุนปืน ขนาด 9 mm 28 นัด
11. กระสุนปืน ขนาด .38 mm. 76 นัด
12.กระสุนปืน ขนาด .380 mm 35 นัด
13. กระสุนปืนลูกซอง ขนาด 20 เกจ 17 นัด
14. กระสุนปืนลูกซองขนาด 410 เกจ 13 นัด
15.กระสุนปืน ขนาด .22 LR 8 นัด
16.กระสุนปืน ขนาด .22 10 นัด
17. ชิ้นส่วนซองปืน 35 ชิ้น
18. ชิ้นส่วนลำกล้องปืน 30 ชิ้น
19.ด้ามจับพลาสติกปืนสีดำ 2 ชิ้น
20. สปริงสำหรับประกอบอาวุธปืน 18 อัน
21. ด้ามปืนไม้ 1 อัน
22. เครื่องเจาะไฟฟ้า 1 ตัว
23.เครื่องมือทำอาวุธปืน 1 ชุด
24.ชุดโหลดกระสุนลูกโม่ 3 ชุด
25. แท่นปากกาจับเหล็ก 2 อัน
26.VERNIER CALIPER 2 อัน

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”

โดยพฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือ ด้วยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 หน้าที่ตำรวจได้ลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลได้ลาดตระเวนตรวจสอบการกระทำความผิดผ่านเฟซบุ๊ค จนพบเพจซื้อขายอาวุธปืน ชื่อเพจ “ปืนเถื่อน” และได้แฝงตัวเข้าไปยังกลุ่มปิด (ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์) ชื่อกลุ่ม “คนเล่นปืน” จากนั้นได้ทำการล่อซื้ออาวุธปืนลูกซองสั้น แบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด ส่งผ่านระบบขนส่งทางไปรษณีย์(พัสดุ) และได้ทำการพิสูจน์ทราบตัวผู้จำหน่าย และพิสูจน์ทราบแอดมินกลุ่ม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับพัสดุที่ได้จากการล่อซื้อ ตรวจสอบพบว่าภายในบรรจุ อาวุธปืนและเครืองกระสุนปืนตามที่สั่งซื้อจริง เมื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของพัสดุพบว่าผู้ส่งชื่อ อรรถพล ศรีสุข ผู้ต้องหาที่ 1 และได้ทำการส่งตรวจพิสูจน์ของที่ได้รับ ผลการตรวจยืนยันเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ได้ทำการสืบสวนจนเชื่อได้ว่านายอรรถพลฯ เป็นผู้จัดส่งมีส่วนรู้เห็นในการจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ จึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อยืนคำร้องขอออกหมายจับ ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับนายอรรถพลฯ ในข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1271/2566 ลง 22 เมษายน 2566 และหมายจับศาลอาญา ที่ 1273/2566 ลง 22 เมษายน 2566 จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นที่พักของนายอรรถพลฯ จำนวน 2 จุด ได้แก่ 1) บ้านเลขที่ 118 หมู่ 4 ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ลักษณะเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ ตามหมายค้นศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 93/2566 ลง 5 พฤษภาคม 2566 ผลการตรวจค้น พบ 1.1) เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 2 นัด 1.2) ชิ้นส่วนโลหะลักษณะคล้ายโครงปืน จำนวน 3 ชิ้น 1.3) ชิ้นส่วนโลหะลักษณะคล้ายลำกล้องปืน จำนวน 2 ชิ้น และ 2) ร้านนวดประกายแก้ว บ้านเลขที่ 52/559 หมู่ 7 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ตามหมายค้นของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 94/2566 ลง 5 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของนายอรรถพลฯ

ผลการตรวจค้นพบของกลางที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 2.1) อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 5 กระบอก 2.2) อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก 2.3) อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .22 ยี่ห้อ ROHM RG10 2.4) อาวุธปืนแบลงค์กันสภาพระหว่างรอการประกอบ 6 กระบอก 2.5) อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์สภาพระหว่างรอการประกอบ 1 กระบอก 2.6) กระสุนปืน ขนาด 9 mm 28 นัด 2.7) กระสุนปืน ขนาด .38 mm. 76 นัด 2.8) กระสุนปืน ขนาด .380 mm 35 นัด 2.9) กระสุนปืนลูกซอง ขนาด 20 เกจ 17 นัด 2.10) กระสุนปืนลูกซองขนาด 410 เกจ 13 นัด 2.11) กระสุนปืน ขนาด .22 LR 8 นัด 2.12) กระสุนปืน ขนาด .22 10 นัด 2.13) ชิ้นส่วนซองปืน 35 ชิ้น 2.14) ชิ้นส่วนลำกล้องปืน 30 ชิ้น 2.15) ด้ามจับพลาสติกปืนสีดำ 2 ชิ้น 2.16) สปริงสำหรับประกอบอาวุธปืน 18 อัน 2.17) ด้ามปืนไม้ 1 อัน 2.18) เครื่องเจาะไฟฟ้า 1 ตัว 2.19) เครื่องมือทำอาวุธปืน 1 ชุด 2.20) ชุดโหลดกระสุนลูกโม่ 3 ชุด 2.21) แท่นปากกาจับเหล็ก 2 อัน 2.22) VERNIER CALIPER 2 อัน โดยของกลางทั้ง 22 รายการซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีขาว ทะเบียน 2ฒส 474 กรุงเพทมหานคร จอดอยู่บริเวณหลังร้านนวดประกายแก้วฯ
จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายอรรถพล ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนประกอบอาชีพเป็นช่างซ่อมรถยนต์ที่อู่เดียวกันกับนายทองคำฯ มีความชำนาญด้านการซ่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่แล้ว จากนั้นเมื่อประมาณปลายปี 2565 ตนได้สั่งซื้อแบลงค์กัน มาจากร้านขายปืนทั่วไปในย่านสะพานเหล็ก จาก จ.กาญจนบุรี, ลำปาง รวมทั้งช่องทางช็อปปี้ , ลาซาด้า ซื้อมากระบอกละประมาณ 9,000 บาท จากนั้นได้สั่งซื้อลำกล้องมาจากในกลุ่มไลน์ที่ตนรู้จัก และคนรู้จักส่วนตัว จากนั้นได้นำลำกล้องมาดัดแปลงโดยใช้อุปกรณ์เครื่องเจาะ และเครื่องวัดที่ตนมีอยู่แล้วทำการดัดแปลงปืนพร้อมแม็กกาซีนให้สามารถยิงได้ เมื่อสามารถใช้ได้แล้วจะทำการขายในกลุ่มไลน์ให้กับคนที่รู้จักในราคากระบอกละประมาณ 12,000 บาท ได้กำไรประมาณกระบอกละ 2,000-3,000 บาท ขายที่ทำไปเองแล้วประมาณเกือบ 20 กระบอก และนอกจากนี้ยังสั่งปืนอย่างอื่นพร้อมกระสุนจำหน่ายให้ลูกค้าเพื่อกินส่วนต่างหลายหมื่นบาท
ส่วนนายทองคำ ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนเป็นเพียงผู้พักอาศัยอยู่ในอู่รถยนต์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานกับนายอรรถพล ศรีสุข กระสุนปืนจำนวน 2 นัด และโครงปืน จำนวน 3 ชิ้น เป็นของนายอรรถพลฯ ที่ฝากไว้ ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้จัดชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะช่วงระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงฝากเตือนไปยังประชาชนให้ช่วยตรวจสอบการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน หรือสิ่งของผิดกฎหมายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งง่ายต่อการเข้าถึงของประชาชน หากพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลรายละเอียดมายังกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือเฟซบุ๊คเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้โดยตรง

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link