ตร.รวบพ่อเฒ่า 76 ปี ใช้ปืนยิงน้องสาวเจ็บเหตุแบ่งมรดกไม่เป็นธรรม

ตร.รวบพ่อเฒ่า 76 ปี ใช้ปืนยิงน้องสาวเจ็บเหตุแบ่งมรดกไม่เป็นธรรม

เมื่อเวลา 13.00น. วันที่ 21 พ.ค. พ.ต.ท.กริช เพ็ชรสิมาลัย สว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุชายคุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ได้รับบาดเจ็บ ในบ้านเลขที่ 201 ถนนจันทร์ ซอย 23/2 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ บก.สปพ.191 และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ปลูกในรั้วรอบขอบชิด พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ จากการตรวจสอบพบ ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงชรา อายุประมาณ 65-70 ปี ถูกยิงถากที่บริเวณอกข้างขวา เจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่ง รพ.จุฬาลงกรณ์ อย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน ทราบข้อมูลว่าเป็นพี่ชายของคนเจ็บ ถือปืนลูกโม่ขนาด .38 กวัดแกว่งไปมาอยู่ในบ้าน มีการยิงกระสุนจนหมดโม่และสับเปลี่ยนกระสุนสำรองใส่ใหม่อีกหลายนัด จนเจ้าหน้าที่ต้องเกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์ ใช้เวลานาน 1.30 ชั่วโมง จึงยอมทำการวางอาวุธปืนและยินยอมให้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก

พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เบื้องต้นมีหญิงได้รับบาดเจ็บ 1 คน รับแจ้งว่าเป็นน้องสาว ของผู้ก่อเหตุซึ่งได้ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว อาการพ้นขีดอันตราย พร้อมได้รายงาน ผบ.ตร.และ ผบช.น.ให้ทราบ และได้รับคำสั่งกำชับให้ดูแลสถานการณ์ให้ดี ซึ่งเมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุก็มีอาการสงบลง ไม่ถือปืนแล้ว แต่ยังเก็บไว้กับตัว ซึ่งตำรวจต้องเปิดใจรับฟังผู้ก่อเหตุ เพื่อประเมินสถานการณ์จนคลายความกังวล จึงไม่มีความจำเป็นต้องเข้าชาร์จจับกุม เพราะไม่มีคนอยู่ในพื้นที่แล้ว และสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยก่อนเจ้าตัวจะยอมมอบปืนให้ตำรวจเอง

ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้ก่อเหตุ ทราบว่าเจ้าตัวมีอายุ 76 ปี มีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว และอาศัยอยู่ที่อื่น แต่พกพาปืนมาก่อเหตุที่นี่ ส่วนแรงจูงใจ เจ้าตัวบอกว่าจากความเครียดที่ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดการมรดก ซึ่งครอบครัวมีญาติพี่น้องรวม 8 คน ยังมีชีวิตอยู่ 5 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 3 ราย ก่อนเจ้าตัวมาพูดคุยถึงที่บ้านแล้วตัดสินใจก่อเหตุ ซึ่งกำลังสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง โดยผู้ก่อเหตุเคยทำงานด้านรักษาความปลอดภัยของเอกชน ทำให้พอมีความชำนาญด้านการใช้อาวุธปืนบ้าง แต่ไม่ได้เป็นทหาร และเลิกทำงานแล้วเพราะมีอายุมาก

อย่างไรก็ตาม สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหานั้น เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดฐานพยายามฆ่า และความผิดตาม พ.ร.บ.ปืน แต่ต้องตรวจสอบพฤติกรรมการก่อเหตุพร้อมสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานจะเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะยิงปืนมากกว่า 1 นัด จากนี้จะคุมตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียด ที่ สน.บางโพงพาง พร้อมตรวจร่างกายหาสารเสพติดต่อไป.

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link