สาววัยรุ่นว้าวุ่นทิ้งข้อความบอกเพื่อนก่อนโดดแม่น้ำเจ้าพระยาจบชีวิตตัวเอง
วันที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 13.05 น.
พันตำรวจโท พฤต ศุภจิตตาการ สว.สอบสวน สน.ปากคลองสาน รับแจ้งมีศพลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาทิศทางมุ่งหน้า ท่าน้ำราชวงศ์ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณท่าน้ำใต้สะพานพุทธ ถนน ประชาธิปก แขวง สมเด็จเจ้าพระยา เขต คลองสาน กรุงเทพมหานคร พบเหตุอยู่ตรงบริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยาทิศทางมุ่งหน้าท่าน้ำราชวงศ์ จึงมอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำเรือตรวจการทางน้ำออกปฏิบัติการเร่งนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาที่ท่าน้ำใต้สะพานพุทธเพื่อให้แพทย์นิติเวชได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นก่อนที่ร่างผู้เสียชีวิตจะลอยตามกระแสน้ำไปไกลกว่านี้ และเมื่ออาสาสมัครไปพบกับร่างผู้เสียชีวิตดังกล่าวในลักษณะลอยน้ำคว่ำหน้าจึงรีบเทียบเรือเข้าไปใกล้แล้วนำเชือกผูกร่างผู้เสียชีวิตเพื่อลากจูงกลับมาตรวจสอบ และเมือทำการผูกร่างผู้เสียชีวิตเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยระหว่างรากจูงกลับแต่แล้วก็ต้องถึงกับตกตะลึง เมื่อร่างผู้เสียชีวิตกลับไม่ยอมลอยตามกลับมาด้วยใช้เวลารากจูงอยู่นาน จะเร่งเครื่องก็แล้วก็ไม่สามารถที่จะลากกลับมาได้ สุดท้ายต้องใช้วิธีจุดธูปเพื่อบอกกล่าววิญญานถึงจะลากจูงร่างผู้เสียชีวิตกลับมาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อมาถึงที่ท่าน้ำใต้สะพานพุทธก็ได้พบกลับกลุมเพื่อนๆของผู้ตายมารอรับศพด้วยความเศร้าสลดต่างก็ร้องไห้ด้วยความสงสารเพื่อน ต่อมาจึงทราบว่าผู้ตายมีอายุ 16 ปี เป็นพนักงานสาวเสิร์ฟอาหารร้านชาบู ย่านโพธิ์สามต้น อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาให้แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ เบื่องต้นพบว่าผู้ตายสวมใส่เสื้อแขนสั้นคอกลมสีดำ กางเกงยนส์ ไม่สวมรองเท้า ที่แขนข้าซ้ายพบลอยศักดิ์รูปหน้ากากปีศาจญี่ปุ่น ผมสั้น ความสูงประมาณ 160 ซม. ลักษณะศพมีใบหน้าบวมอืด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน
จากการสอบถามเพื่อนผู้ตายกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตไปหาที่ห้องของตนเองไปไม่ถึง 5 นาที แล้วแม่ของผู้ตายก็โทรมาแล้วแม่เขาก็ย่นอะไรนี่แหละแล้วเขาก็บอกว่าจะไปโดดสะพานพุทธให้ตายเลยจะได้จบๆแล้วเขาก็เดินออกมา ตนเองก็คิดว่ามาคุยโทรศัพท์ก็เลยไม่ได้ตาม ตนก็ออกไปเรียกเขาบอกให้กลับมาเขาก็ไม่กลับ ผู้ตายทำงานอยู่ร้านชาบู ย่านโพธิ์สามต้น ส่วนที่เเม่ของเขาโทรมาก็อยากจะให้ผู้ตายกลับบ้านที่อุบล แต่เขาก็ไม่อยากกลับ ถึงแม่ของผู้ตายบอกว่าจะส่งเงินมาให้เพื่อเป็นค่าเดินทางกลับบ้านก็ไม่ยอม ส่วนสาเหตุของการตัดสินใจโดดสะพานในครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จะว่าเรื่องแม่จะให้กลับบ้านก็ไม่แน่ใจ แต่ผู้ตายไม่ได้เป็นหนี้ แล้วก็ไม่เคยพูด ไม่เคยบ่นอะไรเลย
แล้วก็หยิบโทรศัพท์ที่แชทคุยกันทางไลด์กลุ่มเพื่อนมาให้ดูก็จะมีภาพตอนที่ผู้ตายยืนอยู่บริเวณกลางสะพานโดยถอดรองเท้าเรียบร้อยแล้วและเอากระเป๋าวางไว้ข้างรั้วขอบสะพานแล้ว และก็มีข้อความตัดพ้อถึงความน้อยใจอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่มีใจความอะไรแน่นอนถึงสาเหตุ แล้วยังบอกอีกว่าให้เพื่อนมาเอารถจักรยานยนต์ที่จอดเอาไว้ใต้สะพานพุทธกลับไปด้วย
เบื้องต้นแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบจากสภาพร่างกายของผู้เสียชีวิตแล้วไม่พบบาดแผลและร่องรอยจากการถูกทำร้ายร่างกาย แต่อย่างไรแล้วต้องนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และจะมอบให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
Leave a Reply