สระบุรี – เกิดอุบัติเหตุรถไฟโดยสาร กทม.-สุรินทร์ชนรถยนต์กระบะซิ่งตัดหน้ากระชั้นชิดรถกระบะพังยับคนขับเจ็บสาหัส รอดตายปาฎิหารย์

สระบุรี – เกิดอุบัติเหตุรถไฟโดยสาร กทม.-สุรินทร์ชนรถยนต์กระบะซิ่งตัดหน้ากระชั้นชิดรถกระบะพังยับคนขับเจ็บสาหัส รอดตายปาฎิหารย์
วันที่ 27ต.ค.61 ช่วงตอนเย็น ร.ต.อ.อภิชัด รัตนศรี พนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีรถไฟโดยสารชนรถยนต์กระบะ ที่กั้นรถไฟรางคู่ ถนนทางเข้าศูนย์วิจัย – วัดป่าไผ่ หมู่ 7 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จึงไปตรวจที่เกิด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟแก่งคอย มูลนิธิปอเต๊กตึ๊ง พบ รถยนต์กระบะ อีซูซุ แค็ป สีบรอน ทะเบียน บน-7855 สระบุรี สภาพรถด้านท้ายเสียหายพังยับเยิน กระเด็นห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร ทราบชื่อคนขับ นาย สมนึก โชติราศี อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 160 /20 ม.7 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้รับบาดเจ็บอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง ได้นำร่างของผู้บาดเจ็บออกมาจากรถ มีบาดแผลที่ศีรษะแตก และตามร่างกายบอบช้ำ เลือดไหลเต็มตัว จึงรีบนำตัวส่งรพ.แก่งคอย ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนรถไฟโดยสารที่ชนรถยนต์กระบะ ขบวนที่ 233 รถไฟโดยสาร กทม.-สุรินทร์ ได้ไปจอดอยู่ที่ชานชลา แก่งคอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว รวบรวมหลักต่าง ๆ เพื่อที่จะไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟแก่งคอย และคนขับรถไฟขบวนดังกล่าว และจะไปสอบสวนคนขับรถยนต์กระบะ แต่ซึ่งขณะนี้คนเจ็บยังไม่สามารถให้การอะไรได้ ต้องรออาการดีขึ้นก็จะได้เชิญตัวมาสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุต่อไป

ขณะเดียวกัน น.ส.สุกัญญา โชติราศี อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวคนขับรถยนต์กระบะ ทราบข่าว ว่า พ่อถูกรถไฟชน จึงได้รีบมาดูที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบพ่อของตนเอง ทราบว่าเจ้าหน้ามูลนิธิปอเต็กตึ้ง ได้นำตัวส่ง รพ.แก่งคอยแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถาม น.ส.สุกัญญา โชติราศี ว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคุณพ่อของตนเอง ทำงานอยู่ในโรงงานแหล่งหนึ่งในเขต ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งทราบว่า พ่อได้เข้าไปทำธุระในหมู่บ้านวัดป่าไผ่ตั้งแต่เช้า ต้องขับรถผ่านทางรถไฟสายนี้ แต่ไม่คิดว่าพ่อจะมาถูกรถไฟชน โชคดีที่พ่อไม่ถึงแก่ชีวิต เหมือนปาฏิหาร์ยเลย
ส่วน นาง กาญจนา นาถจันทึก อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 123/1 ม.4 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ขณะรถกระบะมุ่งหน้าออกจะถนนใหญ่ ขณะนั้นมีที่กั้นรถไฟ ขาเข้า – ขาออก มีอย่างละครึ่ง แต่ที่กั้นขาออกได้ลงกั้นคาแค่ครึ่งนึง ลงไม่สุด จึงทำให้รถกระบะรอดออกไปได้ และไปเจอกับรถไฟอย่างกระชันชิด จึงได้เร่งเครื่องพุ่งไปด้านหน้า นึกว่าจะพ้น แต่ไม่พ้น รถไฟจึงได้ชนท้ายรถกระบะ รถได้หมุนไปอยู่กับรางรถไฟอีกรางหนึ่ง ห่างจากที่เกิดเหตุ 20 เมตร ส่วนที่กั้นรถไฟ มักจะเสียบ่อย และทำให้คนคิดว่า รถไฟไม่มีขับผ่านมา และลงที่กั้นไม่สุด ลงได้แค่ครึ่งเดียว จึงทำให้คนขับรถนึกว่าเสียและไม่มีรถไฟผ่านมา จึงได้ขับรถเพื่อจะข้ามทางรถไฟไป และได้ไปเจอกับรถไฟอย่างกระชันชิด จึงประสบอุบัติเหตุรถไฟชนดังกล่าว…

สมยศ พิมมะศร 0819940177

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link