ผู้บัญชาการทหารเรือจัดพิธีต้อนรับ
“เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช”
ประจำการกองทัพเรือ ยิ่งใหญ่ สมเป็นเรือ.. ของพ่อ
หลังจาก “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” โปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ที่ต่อจากเกาหลีใต้ใหม่ จากที่จะใช้ชื่อเดิมว่า “เรือหลวงท่าจีน” เปลี่ยนเป็น “เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช”
นับเป็นความปลาบปลื้มของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่วันนี้ได้เห็นความสง่างามของ “เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช”
ต่อมากองทัพเรือได้จัดเรือหลวงตากสิน หมายเลข 422 เรือหลวงนเรศวร 421 และ เรือหลวงรัตนโกสินทร์ 441 พร้อม อากาศยาน เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ ออกเดินไปยังกลางอ่าวไทย เพื่อต้อนรับเรือฟริเกตสมรรถนะสูงหมายเลข 471 เรือหลวงท่าจีน ซึ่งได้รับการพระราชทานชื่อใหม่ เป็น เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช หลัง เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ หลังกองทัพเรือไทยได้จัดซื้อ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง เรือพิฆาต ลำนี้ โดยต่อเรือจาก DSME.-DAEWOO Shipbuilding & Marine Engineering CO., LTD. ประเทศเกาหลีใต้ ในงบฯลำละ เกือบ 1.5 หมื่นล้านบาท
พร้อมกันนี้ยังเผยโฉม “ผู้การกุ๊ก” นาวาเอก สมิทนัท คุณวัฒน์ ผู้เรียกได้ว่า เป็น ผู้การเรือหลวง “ภูมิพลอดุลยเดช“ คนแรกของประเทศไทย
พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. ได้เป็นประธานในพิธีต้อนรับ เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช และขึ้นระวางเรือประจำการ ณ ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เป็นเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ล้ำสุดในอาเซียน พร้อมปฏิบัติภารกิจตามที่กองทัพเรือ มอบหมายต่อไป
พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. ยังได้ให้โอวาทแก่ผู้การและลูกเรือว่าระบุใจความได้ว่า “ด้วยพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อจาก “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” ดังนั้นทหารเรือทุกนายจะต้องมีจิตวิญญาณ พิทักษ์ปกป้องสถาบัน ทั้งนี้นอกจากเป็นทหารแล้ว พวกเรายังต้องใช้ชีวิตร่วมกับประชาชน ที่ใดมีภัย เมื่อนั้นจะต้องมีกองทัพเรือ ดังนั้นเราต้องพร้อมเป็นที่พึ่งของประชาชน จึงอยากให้ทหารทั้ง 141 นาย มีความพร้อมอยู่เสมอ เพราะเราเป็นกองทัพเดียวที่ชำนาญการรบทางน้ำ”
Leave a Reply