ราชบุรี- สภ.เมืองราชบุรี แจงให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย กรณีจยย.หนีสายตรวจชนกำแพงเสียชีวิต หลังญาติติดใจ

เมื่อวันที่ 19 มิย. 62 พ.ต.ท.เอนก บุตรดี รอง ผกก.สอสวน สภ.เมืองราชบุรี พ.ต.ท.พรชัย ตรีอุดม พนักงานสอบสวน พร้อมทั้งตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน ร่วมตรวจสอบลำดับเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ หลังจากช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุวัยรุ่นขี่รถ จยย.หลบหนีสายตรวจเข้ามาในหมู่บ้านและเสียหลักชนเสากำแพงบ้านทำให้เสียชีวิต ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตติดใจในกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนร้องขอให้ทางตำรวจให้ความเป็นธรรม

จากกรณีเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 18 มิย.62 พ.ต.ท.พรชัย ตรีอุดม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกำแพงบ้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณภายในซอยหมู่บ้าน หมู่ที่ 7 ต.สามเรือน อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยมูลนิธิประชานุกูล และแพทย์เวร โดยที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุเมธ เย็นใส อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 7 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ห่างออกไป 20 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ดรีม สีชมพู ทะเบียน 3969 ราชบุรี จอดล้มอยู่

ซึ่งต่อมาญาติของผู้เสียชีวิตได้อ้างว่า ผู้เสียชีวิตได้ขี่รถ จยย.หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาในหมู่บ้าน ในขณะที่หลบหนีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขี่รถ จยย.ไล่กวดมาด้วยความเร็ว แต่มาถึงที่เกิดเหตุภายในซอยหมู่บ้าน หมู่ที่ 7 ต.สามเรือน ประมาณ 15 เมตร รถของผู้เสียชีวิตเกิดเสียหลักพุ่งชนเสากำแพงหน้าบ้าน และทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา และยังอ้างอีกว่า ทางด้านเจ้าหน้าตำรวจสายตรวจทำเกินว่าเหตุ และขณะเกิตเหตุไม่ยอมลงไปดูผู้ที่เสียชีวิตแต่อย่างไร กับปล่อยให้ผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่อย่างนั้น และขับรถกลับไป จนทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 19 มิ.ย. พ.ต.ท.เอนก บุตรดี รอง ผกก.สอสวน สภ.เมืองราชบุรี พร้อม พ.ต.ท.พรชัย ตรีอุดม พนักงานสอบสวน พร้อมทั้งตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน ได้นำสายตรวจที่ออกตรวจในช่วงเกิดเหตุ ลงพื้นเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในที่เกิดเหตุ โดยสายตรวจที่ออกตรวจในช่วงเกิดเหตุ ได้ให้ข้อมูลว่า เริ่มจากเมื่อเวลา 21.00 น. มีผู้แจ้งมาว่ามีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันที่บริเวณถนนเพชรเกษมขาเช้าตัวเมืองราชบุรี ตรงคอสะพานคลองสามง่าม หลัก กม.90+905 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบรี หลังเจ้าหน้าที่สายตรวจได้รับแจ้งเหตุก็ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุโดยรถจักรยานยนต์สายตรวจ จำนวน 2 คัน เจ้าหน้าที่ 4 นาย ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่สายตรวจได้มาถึงที่เกิดเหตุก็พบกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจอดรถรวมตัวอยู่บริเวณดังกล่าวจริง มีประมาณ 10 คัน แต่อยู่คนละฝั่งถนน จึงกลับรถมาอีกฝั่งจนห่างจากกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 200 เมตร ทำให้กลุ่มวัยรุ่นเห็นเจ้าหน้าที่สายตรวจจึงพากันขับรถหลบหนีเข้าไปในซอยหมู่บ้าน ต.ดอนทราย ซึ่งทางสายตรวจได้ขี่รถไล่ตามไป จนสามารถติดตามกลุ่มวัยรุ่นได้บางส่วนที่บริเวณ ม.7 ต.ดอนทราย และได้ควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ 3 คน และรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ส่วนกลุ่มวัยรุ่นบางส่วนได้ขับรถหลบหนีไปอีกเส้นทางรวมถึงผู้เสียชีวิตด้วย เจ้าหน้าที่สายตรวจจึงได้แบ่งกำลัง 2 นาย รถจักรยานยนต์สายตรวจ 1 คัน ติดตามกลุ่มวัยรุ่นบางส่วนที่หลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่อีก 2 นายได้ควบคุมตัววัยรุ่นอีก 3 คนไว้ ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 2 นาย ได้ติดตามกลุ่มวัยรุ่นจนมาเจอผู้เสียชีวิต ขับรถหลบหนีไปตามเส้นทางหมู่บ้านในเขต หมู่ที่ 7 ต.สามเรือน จนมาถึงบริเวณแยกบ้านญวนใต้ ซอย 1 ม.7 ต.สามเรือน ผู้เสียชีวิต ได้เลี้ยวเข้าไปในซองดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่สายตรวจจึงได้เลี้ยวตามไปได้สักพักจึงหยุดติดตาม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นทางแยกหลายทางแยก และค่อยข้างมืด ประกอบกับเป็นห่วงเจ้าหน้าที่สายตรวจอีก 2 นายที่ได้ควบคุมตัววัยรุ่น 3 คนไว้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่สายตรวจหยุดติดตามผู้เสียชีวิต และหันหัวรถกลับมาหาเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ควบคุมกลุ่มวัยรุ่น 3 คนไว้ และได้ตรวจสอบวัยรุ่นทั้ง 3 คน พร้อมออกใบสั่งให้กับวัยรุ่นทั้ง 3 คน จนมาทราบที่หลังว่าผู้เสียชีวิตยังได้ขับรถหลบหนีเข้าไปในซองหมู่บ้าน หมู่ที่ 7 ซึ่งห่างจากจุดที่เจ้าหน้าที่สายตรวจหยุดติดตามผู้ตาย ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร และเกิดเสียหลักรถล้มไถลจนหัวไปฟาดกับเสาหน้าบ้านภายในซองดังกล่าวจนทำให้เสียชีวิต

ด้าน พ.ต.ท.เอนก บุตรดี รอง ผกก.สอสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ได้พาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ความเป็นธรรมคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานราชบุรี ก็จะเก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ได้มากที่สุด ส่วนทั้ง 2 ฝ่าย ใครมีหลักฐานอื่น หรือพยานบุคคล ก็สามารถมาแจ้งหรือมาพบพนักงานสอบสวนได้ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเบื้องต้นได้มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ปฏิบัติงานในช่วงเกิดเหตุ และญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งญาติผู้ตายยังติดใจในการเสียชีวิต ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ยินดีที่จะให้ทางญาติผู้เสียชีวิตนำหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมได้ตลอด เพื่อที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ต่อมาในเวลา 21.30 น. ของวันเดียวกัน พ.ต.ท.เอนก บุตรดี รอง ผกก.สอสวน สภ.เมืองราชบุรี พร้อม พ.ต.ท.พรชัย ตรีอุดม พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้ลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุในเวลาใกล้เคียงกับเวลาที่เกิดเหตุจริง เพื่อหาหลักฐานและพยานสิ่งแวดล้อมในเวลาเกิดเหตุจริง โดยพนักงานสอบสวนได้พบหลักฐานเพิ่มเติมแต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้เนื่องจากอาจเกิดเสียรูปคดีได้ โดยมีญาติของผู้เสียชีวิตรวมสังเกตุการณ์ด้วย

ด้าน นายอนนท์ เย็นใส อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.7 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นอาของผู้เสียชีวิตและได้อยู่บ้านเดียวกันกับผู้เสียชีวิต ได้เปิดใจว่า ทุกวันปกติหลานชายหรือผู้เสียชีวิต หลังจากเลิกงานต่างคนต่างจะมานั่งคุยกับบริเวณหน้าบ้านทุกวัน บางครั้งก็นั่งเล่นเกมส์กัน หรือบางวันก็นั่งกินอาหารกันภายในครอบครัว โดยเมื่อวาน(วันที่เกิดเหตุ)หลานชายได้นั่งอยู่กับผมจนสามทุ่ม ซึ่งโดยปกติแล้วเวลาสามทุ่มหลานชายจะต้องไปส่งแฟนทุกวัน และก็จะกลับมานั่งคุยกับผมต่อ ซึ่งจะเป็นแบบนี้เป็นประจำทุกวัน ส่วนเกิดเหตุการณ์ที่หลานชายโดยตำรวจไล่กวดมานั้น หลานชายอาจไปส่งแฟนซึ่งตรงกับที่ทางตำรวจได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมาแข่งรถ ซึ่งตรงนั้นมันเป็นจุดที่หลานชายต้องผ่านทุกครั้งที่ไปส่งแฟน ซึ่งอาจทำให้ตำรวจเข้าใจผิดคิดว่าหลานชายเป็นพวกกลุ่มวัยรุ่นแข่งรถ ส่วนนิสัยใจคอของหลานชายไม่ใช่เป็นคนเกเร่ ซึ่งสามารถสืบถามได้กับคนในหมู่บ้าน ให้ไล่ตั้งแต่ที่โรงเรียน และที่ทำงาน เป็นคนที่ทำงานเก่งอนาคตดี ซึ่งผมอยากจะขอความเป็นธรรมอยากให้เป็นเคสตัวอย่าง ก็ไม่อยากคิดอะไรมาก แต่คนที่เสียลูกเสียหลานไป ถ้าใครมาเป็นผมบ้างก็น่าจะรู้ถึงความรู้สึก เพราะว่าผมกับหลานชายอยู่ด้วยกันทุกวัน

ส่วนศพของ นายสุเมธ เย็นใส อายุ 23 ปี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 มิ.ย. ทางญาติได้ไปรับศพมาบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ที่บ้านเลขที่ 23 ม.7 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โดยทางญาติได้บอกกับทางผู้สื่อข่าวว่า หากไม่รับได้รับความเป็นธรรมก็จะของเก็บศพไว้ก่อนจะไม่ประกอบพิธีฌาปนกิจจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม หรือความชัดเจนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น