โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ.2522

วันนี้ (25 ก.ค.62) เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. เป็นประธาน พร้อมด้วย พล.ต.ต. ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการ สตม. และ พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผบก.ตม.1 เปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและชี้แจงขั้นตอน แนวทางปฏิบัติในการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักร ตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดยมีผู้เข้ารับการอบรมสัมมนา จำนวน 400 คน ประกอบด้วยผู้ประกอบการโรงแรม สถานศึกษา สมาคม มูลนิธิ บริษัทห้างร้านต่างๆ ที่มีคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยหรืออยู่ในความรับผิดชอบ ณ ห้องบุณยะจินดา 2 สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต บางเขน กรุงเทพฯ
จากนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า การลงทุนและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทำให้มีชาวต่างชาติเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยมากขึ้น มีการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการให้เช่าที่พักอาศัยแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เล็งเห็นความสำคัญในการควบคุมกำกับดูแลคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตลอดจนเพื่อแสวงหาความร่วมมือ ให้ความรู้และทำความเข้าใจกับผู้เข้ารับการอบรมสัมมนา เกี่ยวกับมาตรการควบคุมคนต่างด้าว ด้านการรับแจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าว ตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 บัญญัติไว้ว่า “เจ้าบ้าน เจ้าของหรือ ผู้ครอบครองเคหสถาน หรือผู้จัดการโรงแรม ซึ่งรับคนต่างด้าว ที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเข้าพักอาศัย จะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ที่บ้าน เคหสถาน หรือโรงแรมนั้นตั้งอยู่” และหากผู้ใดไม่ดำเนินการจะมีความผิดตามมาตรา 77 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดยระวางโทษปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท แต่ถ้าผู้นั้นเป็นผู้จัดการโรงแรมต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. กล่าวว่า การจัดอบรมในครั้งนี้ เพื่อชี้แจงขั้นตอน วิธีการปฏิบัติแก่เจ้าบ้าน เจ้าของ หรือผู้ครอบครองเคหสถาน หรือผู้จัดการโรงแรม กรณีรับคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเข้าพักอาศัย จะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่เวลาที่คนต่างด้าวผู้นั้น เข้าพักอาศัย หากไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท แต่ถ้าผู้นั้นเป็นผู้จัดการโรงแรมต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท
“เรื่องการแจ้งที่พักของคนต่างด้าวหรือต่างชาติที่เข้ามาในไทยนั้นเป็นเรื่องที่มีข้อบังคับให้ทำกันมาตั้งนานแล้ว โดยส่วนใหญ่ชาวต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยวมักจะพักที่โรงแรมหรือเกสต์เฮาส์นั้น ทางเจ้าของโรงแรมหรือเกสต์เฮาส์จะต้องแจ้งตามหน้าที่อยู่แล้ว สำหรับประชาชนทั่วไป ที่มีสามี ญาติ เพื่อนที่เป็นชาวต่างชาติแล้วมาพักที่บ้าน ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งบางท่านอาจยังไม่ทราบข้อกฎหมายนี้ จึงต้องฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วกัน โดยในปัจจุบันสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้พัฒนาระบบแอพพลิเคชั่นการแจ้งที่พักอาศัยฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าบ้าน เจ้าของ และผู้ประกอบการ ให้สามารถดำเนินการแจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าว ได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็ว อีกทั้งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกส่วนหนึ่งด้วย ทั้งนี้ การรับแจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าวดังกล่าว เป็นมาตรการหนึ่งในการควบคุมคนต่างด้าว เพื่อให้สามารถควบคุมดูแลและติดตามตัวคนต่างชาติขณะพำนักอยู่ในประเทศไทยได้ เป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ รักษาความปลอดภัยของประชาชนและความสงบเรียบร้อยของสังคม เพื่อให้ประเทศไทยมั่นคงและปลอดภัยตามนโยบายของรัฐบาล” พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าว

ขอบคุณข้อมูลข่าวสาร ที่มา พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.

ทีมข่าวเรื่องจริงผานเลนส์รายงาน

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link