โศกนาฏกรรม… กลายเป็นบันทึกเหตุการณ์สะเทือนขวัญเขย่าประสาทคนไทยทั้งประเทศที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน … จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา สังกัดกรมสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จังหวัดนครราชสีมา สติแตก ยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับกองพัน เจ้านายตัวเองคาบ้านพัก … แล้วจ่อยิง นางอนงค์ มิตรจันทร์ แม่ยายผู้พันตายอีกศพ … ทว่าเรื่องไม่จบแค่นั้น ดันบานปลายลุกลามยึดรถฮัมวีขับเข้าค่ายไปยิงทหารเวรตายเป็นศพที่ 3 ปล้นเอาอาวุธสงครามมุ่งหน้าเข้าเมืองโคราช
จากนั้นอุบัติโหดปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว … จ่าทหารบกหน่วยรบไล่กราดยิงชาวบ้านนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายเกลื่อนถนน ไม่เว้นแม้แต่รถสายตรวจโรงพักเมืองนครราชสีมา… แถมโพสต์เฟซบุ๊กท้าทายประกาศ ผลงานระบายอารมณ์ละเลงเลือด ไปตลอดทาง … บุกห้างเทอร์มินอล 21 ระเบิดถังแก๊สไฟลุกท่วม จับชาวบ้านที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เป็นตัวประกัน ระทึกนานหลายชั่วโมง ท่ามกลางประโคมข่าวผ่านโลกโซเชียลสร้างความตื่นตระหนกไปทั่ว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รีบเดินทางไปบัญชาการเหตุการณ์ เคียงข้าง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 มี “หน่วยพิเศษ” ผู้ชำนาญจากหลายสังกัดตามไปสมทบ … อาทิ พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการข้ามประเทศให้ พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผู้บังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 นำ “คอมมานโด” ลงพื้นที่ … พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม ขน “หนุมาน” ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินด่วน ไล่เลี่ย พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ คุม ทีมอรินทราช 26 ของกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
ขณะที่ “สารวัตรฮัท” ร.ต.อ.ชานนท์ ชัยจินดา ลูกชายแม่ทัพสีกากี ทำหน้าที่หัวหน้าหน่วยสไนเปอร์ ไปพร้อมพลร่มนเรศวร 261 ของกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และ พ.ต.อ.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 นำ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ร่วมภารกิจ … ปิดล้อม และพยายามเคลียร์พื้นที่ช่วยประชาชนที่ติดอยู่ในห้างออกมาให้มากที่สุด
เสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ จ่าสิบทหารใจเหี้ยมยังเก็บตัวอยู่ในที่ซ่อน อาศัยความชำนาญด้านเชิงรบ “ลอบกัด” ตำรวจ … แฟ้มประวัติระบุชัดเป็นนักกีฬาแม่นปืนของกองทัพภาคที่ 2 มีความเชี่ยวชาญในการใช้ปืนสั้นและปืนยาว ผ่านหลักสูตรพลแม่นปืนและซุ่มโจมตีทางยุทธวิธีแบบกองโจรเป็นอย่างดี … ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา ผู้บังคับหมวด กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ต้อง “พลีชีพ” สังเวยร่างจากการปะทะเดือดกลางห้างดังเมืองโคราช … เช่นเดียวกับ ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย ผู้บังคับหมู่ กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
สถานการณ์ตึงเครียดตลอดคืน … “วิกฤติจ่าคลั่ง” กว่าจะคลี่คลายใช้เวลารวม 17 ชั่วโมง สุดท้าย คนร้ายสติแตกในคราบ “ทหารนักรบ” พบจุดจบเป็นศพไม่สวยตามบทอวสาน … โดนตำรวจวิสามัญฆาตกรรมปิดฉากชีวิตที่สร้างความวิปริตไปทั้งเมืองโคราช สมดังความตั้งใจในโพสต์ท้าย ๆ “ ตายดีกว่ายอม” … ต้องยกเป็นบทเรียนนำไปศึกษาและทบทวนยุทธวิธี รวมถึงการตรวจสภาพจิตของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับการใช้อาวุธ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ “ซ้ำรอย” คอยซ้ำเติมครอบครัว “ฮีโร่ไร้ลมหายใจ” ที่อยู่ข้างหลัง
ขอสดุดี … ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา นายตำรวจหนุ่มกล้าชาวอำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ต้องมาตายในสนามรบนอกตำรา ที่สร้างความโศกเศร้าแก่ครอบครัวและผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน … บรรจุเป็น ส.ต.ต.ตำแหน่งผู้บังคับหมู่พลร่ม กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อปี 2550 … ใช้เวลา 5 ปีสอบเลื่อนชั้นเป็นสัญญาบัตร ตำแหน่ง รองสารวัตรงานธุรการ กองกำกับการสุนัขและม้าตำรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ แล้วโยกเป็นรองสารวัตรงานสายตรวจสังกัดเดิม ก่อนขยับมาหน่วยอรินทราช 26
ด้าน ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย เป็นชาวกรุงเกิดท้องทุ่งบางกะปิ จบมัธยมโรงเรียนบางกะปิ … บรรจุแต่งตั้งเป็น พลสำรอง ตำแหน่ง รองผู้บังคับหมู่ กองร้อยที่ 1 กองกำกับการ โรงเรียนตำรวจนครบาล เมื่อปี 2548 ติดยศ ส.ต.ต. ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ ชุดปฏิบัติการศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสาร กองบัญชาการตำรวจนครบาล และย้ายเข้าหน่วยอรินทราช 26 เมื่อปี 2557 ผ่านหลักสูตรยุทธวิธีการรบมากมาย … ถือเป็นความสูญเสียบุคลากรชั้นดีพร้อมกันถึง 2 นาย
Leave a Reply