ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ ผกก.2 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวจับกุม โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2563 นาย เดวิด อายุ 47 ปี สัญชาติ อังกฤษ ก่อเหตุ จับภรรยาไทย (น.ส.สุกานดา) ขังในห้องพักและได้โยนลงมาจากชั้น 8 อาคารบ้านฉางคลีฟบีชคอนโดเทล จว.ระยอง ระหว่างที่พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฉาง กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ วันที่ 30 เม.ย. 2563 ได้หลบหนีออกจากบ้านพักพร้อมรถยนต์เก๋งโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเทา ทะเบียนระยอง ศาลจังหวัดระยองได้อนุมัติออกหมายจับ ลงวันที่ 30 เม.ย.2563 ในผิดฐาน “หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และพยายามฆ่า”
พฤติการณ์ วันที่ 30 เม.ย. 2563 นายเดวิด ได้หลบหนีมาเช่าโรงแรมย่านซอยรัชดา 17 และได้ออกจากโรงแรมไปเมื่อเช้าวันที่ 1 พ.ค. 2563 โดยไม่แจ้งพนักงาน สืบสวนทราบว่าหลังจากออกจากโรงแรมที่รัชดา 17 นายเดวิด มาแชล ได้หลบหนีการจับกุมโดยซุกซ่อนตัวในที่ลับตาคนย่านประตูน้ำ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ย่านรามคำแหง โดยแต่งกายปิดบังใบหน้า ต่อมาวันที่ 16 พ.ค. 2563 ฐานข้อมูลระบบ Biometrics แจ้งว่านายเดวิด เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 130 เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าดู จนกระทั่งจับกุมตัวได้ นายเดวิดให้การว่าต้องหลบซ่อนอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ไม่เข้าพักในโรงแรมเพราะกลัวจะถูกจับตัวได้เป็นเวลา 16 วัน กระทั่งตัดสินใจเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวเพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเลิกติดตามแล้ว เพราะตนเองได้หลบหนีเจ้าหน้าที่มาได้กว่าครึ่งเดือน สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีนโยบายกวดขัน และปราบปรามการกระทำ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าว สถานประกอบการต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการช่วยสกัดกั้น คนร้าย เช่นกรณีนี้เป็นต้น หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
