ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาพร้อมด้วยของกลางสร้อยข้อมือทองคำ 4 บาท 1 เส้นวันที่ 5 กันยายน 2563 ที่ลานจอดรถ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พลตำรวจโทอำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พลตำรวจตรีชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พันตำรวจเอกพัลลภ แอร่มหล้ารองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดสมุทรปราการร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายพิทักษ์ อู่ต้มอายุ 47 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาพร้อมด้วยของกลางสร้อยข้อมือทองคำ 4 บาท 1 เส้นสร้อยคอทองคำจำนวน 3 เส้นแหวนทองจำนวน 4 วง กุญแจรถยนต์กระบะยี่ห้อ Ford จำนวนหนึ่งดอกอโทรศัพท์มือถือ iPhone 11 จำนวน 1 เครื่องโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Huawei จำนวน 2 เครื่องทั้งนี้เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 14.00 น นางสายสุนีย์ คัมฮอลซ์ มารดาผู้เสียชีวิตซึ่งพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธงว่าไม่สามารถติดต่อกับนางสาวณรัติการ์ เกียรติก้องนนท์ ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นบุตรสาวได้ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน จึงขอให้ตำรวจร่วมเดินทางมาตรวจสอบที่บ้านของผู้เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 51/31 หมู่ 3 ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธงจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อไปถึงบ้านพักพบว่าประตูรั้วบ้านถูกล็อคจากด้านนอกจึงได้ติดต่อช่างมาทำการเปิดประตูรั้วและประตูบ้าน เข้าไปในบ้านพัก เมื่อไปถึงห้องนอนชั้น 2 ของบ้านพบศพนางสาวรัติการ์ ในสภาพนอนคว่ำหน้าตัวบวมอืด เน่ามีหนอนขึ้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้รอยการรื้อค้นทรัพย์สินและไม่พบอาวุธในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้นำศพส่งสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์พิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต และหลังเกิดเหตุไม่พบตัวนายพิทักษ์ และไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายพิทักษ์ อู่ตุ้ม สามีของผู้เสียชีวิต จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการและสามารถจับกุมตัวนายพิทักษ์ได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ภายในชุมชนมอญ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนสาเหตุของการสังหารภรรยาครั้งนี้นายพิทักษ์ ให้การว่าถูกนางสาวรัติการ์ ผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาต่อว่าและทำร้ายร่างกาย ด้วยความโมโหเกิดบันดาลโทสะจึงได้ใช้แขนรัดคอฆ่าผู้ตายจากนั้นหลบหนีไป พร้อมกับได้ยึดทรัพย์สินของมีค่าของผู้ตายไปด้วย
ส่วนคดีชิงทรัพย์รถ โดยสารสาธารณะแท็กซี่ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 เวลา 04.00 นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายเป็นชาย 1 คนเข้าไปเคาะประตูรถโดยสารสาธารณะแท็กซี่สีเขียวเหลืองทะเบียน 1 มข 2878 กรุงเทพ ซึ่งจอดรอผู้โดยสารอยู่บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์นิเวศน์ 2 หมู่ 13 ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ และทำร้ายร่างกายนายวิโรจน์ สัมมาบัติ อายุ 83 ปีคนขับแท็กซี่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้เอาโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปและขับรถยนต์แท็กซี่ ขอผู้เสียหายหลบหนีไปในเขตกรุงเทพฯและจอดทิ้งไว้บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สืบทราบว่าคนร้ายคือนายสุพจน์หรือ ปื้ด จุมพล เคยเป็นอดีตนักมวยไทยอาชีพ สามารถจับกุมตัวนายสุพจน์ได้ที่อำเภอคลองหาดจังหวัดสระแก้ว ขณะจะหลบหนีต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้นายสุพจน์ ให้การว่าตนเองเมาสุราและเดินไปเรียกรถแท็กซี่คันดังกล่าวเพื่อเหมาไปหามารดาที่จังหวัดกาญจนบุรีและเกิดมีปากเสียงกับคนขับแท็กซี่จากการถูกด่าทอจึงได้ใช้มือชกคนขับและก่อเหตุลักรถแท็กซี่หลบหนีไป
(สวงค์เที่ยงวัน)
น.ส.พ.เรื่องจริงผ่านเลนส์หนังออนไลน์
จ.สมุทรปราการ
Leave a Reply