นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.เขต 5 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ หรือ “นายกชาย” ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้เปิดเวทีเพื่อสื่อสารกับ ประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 5 เพื่อแจ้งให้กับคนในพื้นที่ได้รับทราบว่า จะส่งนางสุภาพร กำเนิดผล ( น้ำหอม ) ภรรยาของตนในตำแหน่งรองนายก อบจ. ในทีมของนายไพเจน มากสุวรรณ อดีตรองอธิบดีกรมชลประทาน ซึ่งขณะนี้ทีมผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา ที่มีนายไพเจน มากสุวรรณ เป็น นายก อบจ. มีนางสุภาพร กำเนิดผล นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีต สส.เขต 4 ดร.หร่อเหตุ กาเหย็ม กรรมการกลางอิสลาม อดีตที่ปรึกษา อบจ.สงขลา เป็นรองนายก โดยได้รับความเห็นชอบจาก นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม และ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.เขต 8 พรรคประชาธิปัตย์ และนายไพเจน มากสุวรรณ เป็นผู้สมัคร นายก อ.บจ.สงขลา
นอกจากนั้นนายเดชอิศม์ ฯยังได้เปิดตัวนายวงศ์วชิระ ขาวทอง ซึ่งเป็นบุตรชาย เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ. เขต อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เพื่อเป็นการป้องกันความแตกแยกของการแข่งขันระหว่าง 2 ขั้วการเมืองในพื้นที่ ซึ่งการส่งบุตรชายลงสมัคร ส.อบจ. ในครั้งนี้ เป็นการยุติความแตกแยกของการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่
สำหรับนายไพเจน มากสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา เป็นอดีตรองอธิบดีกรมชลประธาน ผู้ตรวจราชการกรมชลประทาน เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่อง น้ำท่วม น้ำแล้ง เป็นผู้ที่เข้ามาวางแผนในการแก้ปัญหาน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ และแก้ปัญหาน้ำแล้งในคาบสมุทรสทิงพระ เป็นชาว ต.สทิ้งหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์ โดย สส. 3 คนในพื้นที่ และ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทยนายนิพนธ์ บุญญามณี ให้ลงสมัครเป็น นายก อบจ.ในครั้งนี้ และนายไพเจนฯ ได้เดินสายพบปะชาวบ้านในทุกพื้นที่ รวมทั้งมีการติดโปสเตอร์แนะนำตัวทั้ง 16 อำเภอที่เป็นเขตการเลือกตั้ง
ที่ผ่านมานายเดชอิศม์ฯ ได้เป็นผู้ริเริ่มในเรื่องการประกาศเอกราชสิ่งแวดล้อม ด้วยการผลักดันให้จังหวัดสงขลา ตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่ในริมคลองอู่ตะเภา ได้ปล่อยน้ำเสียลงคลอง และไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา ซึ่งได้สร้างมลภาวะให้กับประชาชนทั้งกลิ่น และน้ำในคลองอู่ตะเภาเน่าเสีย ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในคลองดังกล่าวได้ จนทำให้โรงานต่างๆ ต้องปรับปรุงขบวนการเพื่อแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียอย่างเป็นระบบ ซึ่งถือเป็น สส.คนแรก ที่เข้ามาแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและได้ผล
นอกจากนั้นนายเดชอิศม์ฯ ยังอาสาเข้าไปแก้ปัญหาการรุกล้ำทะเลสาบสงขลา โดยทำประมงที่ใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย เช่น โพงพาง ไซนั่ง ซึ่งจังหวัดสงขลาได้พยายามเจรจากับผู้ประกอบการประมง แต่ไม่ประสพความสำเร็จ เพราะชาวประมงที่ใช้เครื่องมือผิดกฎหมายไม่ยอมรื้อถอน โดยนายเดชอิศม์ เปิดเผยว่าตนขออาสาในการพูดคุยกับชาวประมงในพื้นที่ เพื่อหาทางออกโดยเชื่อว่า สามารถสร้างความเข้าใจ เพราะทุกคนรักทะเลสาบ และอยากเห็นทะเลสาบสงขลาอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมซึ่งประโยชน์ก็จะตกกับชาวประมงพื้นบ้าน ไม่ได้ไปตกอยู่กับนายทุนที่ไหน
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
Leave a Reply