ตำรวจนครบาล รายงานผลการจับกุมการลักลอบเล่นการพนัน
และฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ตามนโยบายของรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในการแก้ปัญหาการลักลอบเล่นการพนัน เป็นหนึ่งในปัญหาของชาติที่สำคัญต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุชาติ
ธีระสวัสดิ์ และพล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดปราบปรามแก้ไขปัญหาการลักลอบเล่นการพนัน เพื่อไม่ให้เกิดการเสี่ยงต่อการมั่วสุมและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย
รอง ผบช.น. /โฆษก บช.น. พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น., พล.ต.ต.เสนิต สำราญรวมกิจ รอง ผบช.น.
ได้กำชับให้ทุกหน่วยกวดขันการลักลอบเล่นการพนันและฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ซึ่งในวันที่ 5 ม.ค.63 มีผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้
คดีที่ 1 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รรท.ผบก.น.2 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 ได้ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง และ กก.ดส. สืบสวนหาข่าวในพื้นที่ สน.ดอนเมือง จนกระทั่งสืบทราบว่า ภายในบริเวณห้องพักรายวันภูมิเฮ้าส์ หรือฟินเฮ้าส์ ถนนสรงประภา แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ
มีการลักลอบเล่นการพนัน จึงได้ขอหมายค้นเข้าทำการตรวจค้น ตามหมายค้นของศาลแขวงดอนเมืองที่ ค 2/2564 และ ค 3/2564 ภายในห้องพักรายวันภูมิเฮ้าส์ หรือฟินเฮ้าส์ และร้านรวมรินทร์ ผลการตรวจค้นพบ
– ตู้ไฟฟ้า(ตู้ลูกดีด) จำนวน 4 ตู้
– ตู้ไฟฟ้า(ตู้ยิงปลา) จำนวน 1 ตู้
– โต๊ะพนัน(เสือ-มังกร) จำนวน 1 โต๊ะ
และขณะตรวจค้น พบนายอำนวย เกียรติดอนเมือง อยู่บริเวณหน้าร้านรวมรินทร์ ตรวจสอบแล้ว
พบว่าเป็นบุคคลที่มีหมายจับ จึงได้จับกุมนายอำนวยฯตามหมายจับของศาลแขวงดอนเมืองที่ 1610/2563
ในข้อหา “ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพักอาศัยซ่อนเร้นฯ และรับคนต่างด้าวเข้าทำงาน และเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน เสือ-มังกร และทำกิจกรรมมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ” นำส่งพนักงานสอบสวน
สน.ดอนเมือง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 2 พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ, กก.สส.บก.น.7
ร่วมกับ บก.สส.บช.น. และ กก.ดส. กว่า 30 นาย นำหมายศาลอาญาตลิ่งชันเข้าตรวจค้นอาคารคอนโดมิเนียมปิ่นเกล้า
เลขที่ 117 สูงหกชั้น ในซอยโรงพยาบาลเจ้าพระยา ย่านปิ่นเกล้า ที่คาดว่าเป็นสถานที่ตั้งบ่อนลอยฟ้า โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าตรรวจสอบอาคารดังกล่าวบริเวณชั้น 8 พบว่ามีป้ายเป็นห้องจัดเลี้ยงสัมมนาติดอยู่หน้าทางเข้าภายในมีห้องโล่งมีเพียงเก้าอี้และโต๊ะวางอยู่แต่ไม่พบมีอุปกรณ์เล่นการพนัน นายพุฒิพงศ์ กลงทอง ผู้ดูแลอาคาร เปิดเผื่อยอมรับว่าเมื่อหลายปีก่อนเคยเป็นบ่อนการพนันแต่เลิกไปนานแล้ว ปัจจุบันภายในห้องบริเวณดังกล่าวใช้เป็นห้องจัดการประชุมสำหรับลูกบ้านและจัดงานเลี้ยง ไม่ได้เป็นบ่อนตามที่มีกระแสโซเชียลโพสต์แต่อย่างใดและวันนี้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าที่นี่ไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย
ทั้งนี้จากกระแสโลกโซเชียลระบุว่ายังมีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผบช.น. จึงสั่งการให้นำกำลังเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าอาคารดังกล่าวเป็นคอนโดที่พักและบริเวณชั้น 8 ที่เข้าตรวจค้นไม่พบเป็นบ่อนการพนันและสิ่งผิดกฏหมายแต่อย่างใดสำหรับความคืบหน้าการจับกุมบ่อนการพนันบริเวณซอยแจ้งวัฒนะ 14 เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.63 ที่ผ่านมานั้น ในส่วนความผิดเกี่ยวกับการลักลอบเล่นการพนัน
ศาลได้มีคำพิพากษา จำคุกเจ้ามือ 13 คน 7 เดือน 15 วัน ปรับ 15,000 บาท เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง ในส่วนของผู้เล่น 81 คน จำคุก 15 วัน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุก รอลงอาญา 1 ปี
สำหรับความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง อยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนนำส่งพนักงานอัยการมีความเห็นทางคดีต่อไป
บช.น. ได้ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยเคร่งครัด ในเรื่อง
การกวดขันจับกุมอย่างเด็ดขาด โดยในรอบปี 2563 มีผลการจับกุมการลักลอบเล่นการพนันกว่าที่มีผู้เล่นมากกว่า 20 คน จำนวน 16 ราย ผู้ต้องหา 351 คน ในส่วนของความผิดเกี่ยวกับการพนันอื่น ๆ จับกุม จำนวน 3,811 ราย ผู้ต้องหา 6,231 คน รวมถึงมีการตรวจยึดอุปกรณ์ เครื่องเล่นพนันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ หากพบว่าพื้นที่ใดมีการปล่อยปละละเลย จะพิจารณาดำเนินการทางวินัยโดยเด็ดขาดและปรับย้ายขาดจากตำแหน่งต่อไป
บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การลักลอบเล่นการพนันและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด สามารถแจ้งสายได้
ที่สายด่วน ๑๙๑ หรือสถานีตำรวจท้องที่
ทีมงานประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
Leave a Reply