สระบุรี จับแล้วมือฆ่าโบกปูนซีเมนต์ พร้อมคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

สระบุรี จับแล้วมือฆ่าโบกปูนซีเมนต์ พร้อมคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1 ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.ศุภากรณ์ จันทาบุตร รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี, พ.ต.อ.จิรัฎฐ์ ดอกไม้ผกก.กก.สส.ภ.จว.สระบุรี ด้วยเมื่อวันที่ (7 มิถุนายน 2564) เวลาประมาณ 09.00 น. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ผ่านศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เมืองสระบุรีแจ้งว่ามี ผู้พบกองปูนซีเมนต์โบกปิดทับคล้ายรูปคน และมีกลิ่นเน่าเหม็น อยู่ในห้องนอน ภายในบ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่ 9 ต.หนองปลาไหล อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรีที่เกิดเหตุ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระบุรี ร่วมกับเจ้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดสระบุรี และแพทย์เวรโรงพยาบาลสระบุรี ได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว เมื่อไปถึงพบ นายคงฤทธิ์ หวาดด้วงดี อายุ 29 ปี (ลูกเขยผู้ตาย) และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูสระบุรียืนรออยู่บริเวณ หน้าบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว จากนั้นเจ้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดสระบุรี ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานแวดล้อมภายในห้องนอน และบริเวณโดยรอบที่เกิดดังกล่าว และได้ตรวจพิสูจน์กองปูนซีเมนต์โบกปิดทับคล้ายรูปคน พบศพผู้เสียชีวิต เพศชาย ลักษณะเน่าเปื่อย ทราบชื่อนามสกุลจริงภายหลัง คือ นายไพโรจน์ พรหมเมือง เก่า อายุ 55 ปี ถูกปูนซีเมนต์โบกปิดทับ อยู่ในห้องนอน ภายในบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ ได้ออกสืบสวนติดตามทันทีและได้นำตัวพยานและผู้ต้องสงสัยมาซักถามปากคำ ต่อมาสืบสวนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ คือ นายอานุภาพ กัญญาคำ อายุ 29 ปี (เป็นหลานผู้ตาย) เป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้ติดตามตัว นายอานุภาพฯ และพบพยานหลักฐาน ที่ใช้ในการก่อเหตุและทรัพย์สินที่เชื่อว่ามาจากการกระทำความผิด จึงได้ทำการจับกุมตัว แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และลักทรัพย์ของผู้อื่น” และ แจ้งสิทธิตามกฎหมาย พร้อมตรวจยึดของกลาง ดังนี้
1.ไม้ที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 ท่อน
2.ถุงปูนซีเมนต์ จำนวน 2 ถุง
3.โทรทัศน์จำนวน 1 เครื่อง
4.พัดลมตั้งโต๊ะ จำนวน 1 ตัว
5.ตู้เย็นจำนวน 1 เครื่อง
6.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 เล่ม
7.สร้อยคอทองคำขนาด 1 บาท (อยู่ระหว่างติดตาม)
8.รถยนต์ยี่ห้อ Nissan รุ่น Navara (อยู่ระหว่างติดตาม)
ทรัพย์สินรายการที่ 3 – 8 เป็นทรัพย์สินของผู้ตาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พฤติการณ์ในคดี ก่อนเกิดเหตุ เมื่อประมาณเดือน พฤศจิกายน 2563 นายอานุภาพฯ กับ นายไพโรจน์ฯ (ผู้ตาย) ได้ร่วมกันทำงานรับเหมาก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ เดือน มกราคม 2564 ต่อมาเมื่อประมาณเดือน มีนาคม 2564 นายอานุภาพฯ ได้ทวงถามเงินค่าจ้างส่วนที่ตนเองจะได้รับ กับนายไพโรจน์ฯ เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท 3 ครั้ง แต่นายไพโรจน์ฯ (ผู้ตาย) ก็บ่ายเบี่ยง ไม่ให้เงินส่วนนี้ต่อมาเดือน เมษายน 2564 นายอานุภาพฯ ได้ทวงถามค่าจ้าง กับนายไพโรจน์ฯ อีก 4 ครั้ง แต่นายไพโรจน์ฯ (ผู้ตาย) ก็บ่ายเบี่ยง ไม่ให้เงินส่วนนี้กับ นายอานุภาพฯ ขณะเกิดเหตุ นายอานุภาพฯ ให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 06.30 น. นายอานุภาพฯ ได้เข้าไปพบนายไพโรจน์ฯ (ผู้ตาย) ที่บ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว จากนั้นได้หยิบไม้ 1 ท่อน เส้นผ่าศูนย์กลางยาวประมาณ 6 ซม. ความยาวประมาณ 80 ซม. ซึ่งวางอยู่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าวติดมือเข้าไปภายในบ้าน จากนั้นตนเองได้เปิดประตูบ้านและประตูห้องนอนของนายไพโรจน์ฯ (ผู้ตาย) ได้เดินเข้าไปในห้องนอน พบนายไพโรจน์ฯ (ผู้ตาย) ตื่นและลุกขึ้นนั่งบนที่นอน ตนเองจึงได้ใช้ไม้ท่อน ที่ถือมาตีเข้าไปบริเวณศีรษะ ของนายไพโรจน์ฯ (ผู้ตาย) จำนวน 1 ครั้ง เมื่อนายอานุภาพฯ เห็นว่า นายไพโรจน์ฯ (ผู้ตาย) สลบล้มลงบนที่นอน จึงได้ ตีซ้ำเข้าไปบริเวณลำคอ อีก 1 ครั้ง จนกระทั้งแน่ใจแล้วว่า นายไพโรจน์ฯ (ผู้ตาย) เสียชีวิตแล้ว ตนเองจึงได้ปิดล็อกห้องนอนที่เกิดเหตุดังกล่าว และหลบหนีออกมา หลังเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 12.00 น. นายอานุภาพฯ ได้ไปซื้อปูนซีเมนต์ จากร้านวัสดุภัณฑ์ใกล้เคียงที่เกิดเหตุจำนวน 2 ถุง และนำมาผสมที่บ้านที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 17.30 น. ของวันเดียวกัน เพื่อปิดทับ อำพรางศพนายไพโรจน์ฯ (ผู้ตาย) จากนั้นได้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ จนกระทั้ง วันที่ 7 มิถุนายน 2564 นายอานุภาพฯ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุม ให้การรับสารภาพตลอด ทุกข้อกล่าวหา มูลเหตุจูงใจ
1.ผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตายเนื่องจากต้องนำเงินไปชำระหนี้หลังจัดงานแต่ง (แต่ง 18 เม.ย. 64)
2.ผู้ตายค้างค่าแรงจากการรับเหมาก่อสร้างร่วมกัน เมื่อติดตามทวงถามผู้ตายไม่จ่ายค่าแรงและบ่ายเบี่ยง
3.ความแค้นส่วนตัวเนื่องจากผู้ตายมักใช้คำพูดรุนแรงกับผู้ต้องหา

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link