สระบุรี ตำรวจจับมือปืนหัวร้อน ยิงพ่อค้าขายหมูได้แล้ว โมโหขายของให้ช้า

วันที่ 20 ก.ค.64. เมื่อเช้ามืดของวันนี้ ศูนย์191เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งว่ามี เหตุยิงกันที่ร้านขายหมู หลัง บขส. ติดกับตลาดล้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ที่ ถ.สุดบรรทัด ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี จึงแจ้งไปยัง ร.ต.อ. พิภาค ม่วงช้าง ร้อยเวร สภ.เมืองสระบุรี จึงได้รีบรุดไปในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย ชุดสืบสวนของ สภ.เมืองสระบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสระบุรี เมื่อไปถึง
พบ ประชาชนต่างยืนวิพากษ์วิจารณ์ในเหตุการณ์ที่มีคนร้ายยิงพ่อค้าขายหมู ได้รับบาดเจ็บ ที่ต้นแขนซ้าย จำนวน 3 นัด ญาติได้นำตัวส่ง รพ.สระบุรี ก่อนหน้านี้แล้ว

ทราบชื่อ นาย สาโรจน์ คามีศักดิ์ อายุ 37 ปี (เจ้าของร้าน) ตรวจสอบภาพในร้าน พบ รอยลูกกระสุน ยิงกระจกแตกเป็นรู และบริเวณในร้าน รวมแล้ว 3 นัด จึงได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานและได้ปิดกั้นบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อไม่ให้ประชาชนในบริเวณนั้นเข้ามาดู และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่ง ได้รู้เบาะแสว่าคนร้ายที่ลงมือยิงเจ้าของร้านขายหมู พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านบุศราคัม ถ.สุดบรรทัด จึงได้ติดตามคนร้ายไปบ้านดังกล่าว ได้เข้าตรวจสอบภายในบ้าน แต่ไม่พบตัว พบแต่รถจยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 100 สีน้ำเงินดำ ทะเบียน 1 กณ สระบุรี 3337 ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ จอดไว้ในบ้าน และคนร้ายได้เอารถจยย.สีขาวอีกคันขับหลบหนีออกไป จึงได้ให้ชุดสืบสวนจังหวัดและชุดสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี ให้ออกติดตามตัวคนร้ายที่กำลังหลบหนีในครั้งนี้ ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง พร้อมประสานงานไปยังตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานให้มาตรวจสอบร่องรอยในที่เกิดเหตุอีกด้วย

ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ตนอยู่ฝั่งตรงข้าม ได้ขับรถมาเพื่อจะไปซื้อของ และเห็นคนร้ายเดินข้ามถนนมา ได้ยิงเข้าไปในร้านขายหมู คนร้ายได้ขับรถจยย.มาคนเดียว และได้ชักปืนออกมายิงเลย แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นปืนอะไร เห็นไม่ชัด แต่เป็นปืนสีดำ ได้ยินเสียงยิงแค่ 2 นัด และตนก็ได้ขับรถหนีไปเลย และบังเอิญไปเจอมือปืนแถว ถ.สุดบรรทัด ซ้อนกันมา 2 คน เหมือนจะพากันหนี ตนเลยขับรถตามไปดู แต่เป็นรถคันสีขาว
เบื้องต้นได้สอบถาม นาง วรญารัตน์ นันตา อายุ 34 ปี (ภรรยาเจ้าของร้าน) เล่าว่า นายสาโรจน์ (สามี) กับตนเองและลูกน้อง กำลังขายหมูอยู่หน้าร้าน เนื่องจากมีลูกค้าเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำการจัดคิวให้ คนร้ายได้มาซื้อหมูที่หน้าร้านของตน เขารอนานและทำหน้าไม่พอใจ และบอกว่าไม่ได้สักที ตนจึงบอกไปว่า เดี๋ยวก็ได้ รอคิวแปปนึง และเขาก็โวยวาย เขาได้ขับรถจยย.มาจอดที่หน้าร้าน และเขาบอกว่า ควยเอ้ย และแฟนของตนได้ตอบไปว่า มึงให้ควยใคร และได้มีปากเสียงกันนิดหน่อย ตนก็ไม่คิดว่าเขาจะกลับมา เพราะผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว สักพักเขาก็มาจอดรถฝั่งตรงข้ามและเดินข้ามถนนมา แต่แฟนตนเห็นแล้วว่าคนร้ายเดินชักปืนออกมา แฟนจึงได้หลบก้มลง คนร้ายได้ยิงเข้ามาโดนที่ต้นแขนซ้ายของแฟน 3 นัด ตนก็ได้วิ่งหนีไปหลบ ส่วนแฟนก็วิ่งหนีเพราะคนร้ายได้ถือปืนวิ่งตามมา แฟนได้บอกว่า มันมากับใครอีกคนนึงก็ไม่รู้ เพราะเขามารับกัน แฟนได้วิ่งเข้าตลาดล้งและกระโดดข้ามกำแพง แต่มีน้องมาเจอจึงได้พาไปส่งโรงพยาบาล ส่วนคนร้ายทราบว่าได้หนีไปทางโรงเกลือ มันมีรถมารับคนร้าย เพราะมีเด็กที่เห็นเขาถ่ายคลิปไว้ให้ สรุปแล้วเลิกแค่นี้เอง ซึ่งตนก็ไม่รู้จักเขา แต่ตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าเขาขายข้าวมันไก่อยู่แถวๆปั๊มทีพีไอ ตอนนี้คนร้ายกำลังหนีอยู่ ตนเองจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จ.สระบุรี และ ชุดสืบสวนของ สภ.เมืองสระบุรี ได้ออกติดตามตัวคนร้ายไปอย่างกระชันชิด ได้มีสายลับรายงานว่า คนร้ายได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จึงได้นำกำลังไปล้อม ขณะ คนร้ายกำลังนั่งดื่มเหล้า ด้วยอาการมึนเมา ย้อมใจที่ได้ก่อเหตุลงไป อยู่ในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวคนร้ายมา สอบสวนที่ห้องสืบจังหวัดสระบุรี ทราบชื่อ อุดม ทองจันทร์ อายุ 52 ปี พ่อค้าขายข้าวมันไก่ อยู่แถวปั๊มทีพีไอในตัวเมือง สระบุรี ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนลูกโม่จุด38 ได้ขว้างทิ้งขณะหลบหนี ที่บริเวณ ถ.สุดบรรทัด เลย บขส. และในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำลังค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นของกลาง แต่ยังหาไม่พบ จากนั้นจึงได้นำตัว นาย อุดม ทองจันทร์ ผู้ต้องหาที่ยิงพ่อค้าขายหมู ส่งให้กับ ร.ต.อ.พิภาค ม่วงช้าง ร้อยเวร เจ้าของคดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป