ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ห้ามนักท่องเที่ยวตามโครงการ Samui Plus Model หรือ จากโครงการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเชื่อมต่อจังหวัดนำร่องอื่น (Phuket Extention) เดินทางออกนอกพื้นที่อำเภอเกาะสมุยและอำเภอเกาะพะงันไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทย ก่อนครบระยะเวลา 14 วัน หากยังไม่ครบ หรือไม่มีหลักฐานอื่นใดตามที่ราชการกำหนด มาแสดง ให้ผู้ให้บริการเรือหรือสายการบิน ปฏิเสธการให้บริการ หากพบฝ่าฝืนมีความผิดตามข้อกำหนดต้องระวางโทษทั้งจำทั้งปรับ
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ฉบับที่ 63 สำหรับการป้องกันนักท่องเที่ยวของโครงการ Samui Plus Model และ Phuket Extention ออกนอกพื้นที่เขต อำเภอเกาะสมุย อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฏร์ธานี
ตามที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19 ได้มีการประชุมในครั้งที่ 12/2564 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 เรื่อง การเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเชื่อมต่อจังหวัดนำร่องอื่น โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางไปพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเที่ยวบินตรงเส้นทางภูเก็ต – สมุย และ เกาะพีพี เกาะไหง หรือไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ โดยทางเรือ SHA+ จากท่าเรืออ่าวปอ หรือท่าเรือรัษฎา จังหวัดภูเก็ต นั้น เพื่อเป็นการป้องกัน ควบคุม ระงับยับยั้ง การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากโครงการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเชื่อมต่อจังหวัดนำร่องอื่น และโครงการ Samui Plus Model ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยและอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ให้เข้ารับการกักกันตัวแบบมีเงื่อนไขในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 14 วัน นับแต่เข้ามาถึงในราชอาณาจักร ก่อนที่จะเดินทางออกไปยังพื้นที่อื่น ๆ จึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 และ ข้อ 10 แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ข้อ 5 แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 มกราคม 2564 ประกอบกับมาตรา 22 มาตรา 34 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 16/2564 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564 จึงมีคำสั่ง ดังนี้
ข้อ 1 ห้ามมิให้นักท่องเที่ยวตามโครงการ Samui Plus Model หรือ จากโครงการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเชื่อมต่อจังหวัดนำร่องอื่น (Phuket Extention) เดินทางออกนอกพื้นที่อำเภอเกาะสมุยและอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทยก่อนครบระยะเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้เข้ามายังราชอาณาจักร หากมีกรณีจำเป็นต้องให้อยู่ในพื้นที่เกินกว่า 14 วัน เพื่อการควบคุมโรค การป้องกันโรคการรักษา หรือระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ให้เป็นไปตามศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคพื้นที่กำหนด
ข้อ 2 ผู้ให้บริการเรือ หรือสายการบิน ต้องตรวจสอบหนังสือเดินทาง (Passpost) หรือบัตรประจำตัวอื่นใด ก่อนให้บริการหรือจำหน่ายบัตรโดยสาร หากพบว่า เป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ในโครงการ Samui Plus Model หรือ จากโครงการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเชื่อมต่อจังหวัดนำร่องอื่น (Phuket Extention) และระยะเวลาซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรตามเงื่อนไขยังไม่ครบ 14 วัน หรือไม่มีหลักฐานอื่นใดตามที่ราชการกำหนด (Release From) มาแสดง ให้ผู้ให้บริการเรือหรือสายการบิน ปฏิเสธการให้บริการและห้ามมิให้จำหน่ายบัตรโดยสารหรือให้บริการแก่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวโดยเด็ดขาดพร้อมทั้งรายงานให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคพื้นที่ทราบโดยทันที เดินทางออกนอกพื้นที่ อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปยังพื้นที่อื่นๆของประเทศไทยก่อนครบระยะเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้เข้ามายังราชอาณาจักร หากผู้ให้บริการเรือ หรือสายการบิน ไม่ทำการตรวจสอบหนังสือเดินทาง (Passpost) หรือบัตรประจำตัวอื่นใด ก่อนให้บริการหรือจำหน่ายบัตรโดยสาร โดยความจงใจหรือความประมาทเลิ่นเล่อ ของพนักงานของตนก็ดี เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการก็ดี หรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องของตนก็ดี จนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวที่อยู่ในโครงการ Samui Plus Model หรือ จากโครงการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยว ในจังหวัดภูเก็ตเชื่อมต่อจังหวัดนำร่องอื่น (Phuket Extention) ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทย ก่อนครบ ระยะเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้เข้ามายังราชอาณาจักร ให้ผู้ควบคุมเรือ เจ้าของกิจการเรือ เจ้าของเรือ หรือสายการบิน แล้วแต่กรณี ต้องรับผิดตามคำสั่งฉบับนี้ด้วย
ข้อ 3 ห้ามมิให้ผู้ใด สนับสนุน อำนวยความสะดวกหรือกระทำประการใด เพื่อให้นักท่องเที่ยวซึ่งอยู่ในโครงการ Samui Plus Model หรือโครงการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเชื่อมต่อจังหวัดนำร่องอื่น (Phuket Extention) เดินทางออกนอกพื้นที่อำเภอเกาะสมุยและอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนครบเงื่อนไขหรือระยะเวลาที่ทางราชการได้กำหนด
ข้อ 4 การดำเนินการตามคำสั่งนี้ เป็นกรณีที่มีสถานการณ์อันกระทบหรืออาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อย และเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยเนข้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 อนึ่ง บรรดาคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีหรือประกาศจังหวัดสุราษฎร์ธานีหรือประกาศ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานีใดที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ ให้ยังคงบังคับต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้
ข้อ 5 หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ จะมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือตามมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
สั่ง ณ วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ลงชื่อ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสุราษฎร์ธานี
หัวหน้าศูนย์ข่าว เรื่องจริงผ่านเลนส์ สุราษฎร์ธานี / รายงาน
Leave a Reply