ผู้ประกอบการปลื้ม ขอรัฐบาลสานต่อโครงการ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยัน ‘สมุย พลัส โมเดล’ คือความหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ หวัง นทท.ในโครงการอยู่ภูเก็ต 7+7 จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของเกาะสมุย
การเปิดโครงการ “สมุย พลัส โมเดล” กับเป้าหมายสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของหมู่เกาะทะเลใต้ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ตลอดจนพื้นที่ อื่นๆ โดยเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่เปิดโครงการไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 เพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้คาดการณ์ไว้ว่าในช่วงเดือนแรก ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.-15 ส.ค.64 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเกาะสมุย ประมาณ 1,000 คน จะสร้างรายได้กว่า 180 ล้านบาท และหลังจากนั้นก็จะเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และไตรมาสแรกของปี พ.ศ.2565 ประกอบกับ ภายหลังที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เห็นชอบการขยายพื้นที่ของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ให้กว้างขึ้น โดยให้นักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่นในลักษณะ 7+7 โดยมีเกาะสมุย เกาะพะงัน และ เก่าเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมในโครงการดังกล่าวด้วย ประกอบกับเที่ยวบินภูเก็ต-สมุย ได้เปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 64 นี้ พบจำนวนนักท่องเที่ยวให้ความสนใจจองที่พักในกเกาะสมุยเพิ่มมากขึ้น
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การเข้าโครงการสมุยพลัสโมเดล เป็นโครงการที่ 2 ต่อจาก “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” การให้บริการต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างมาตรฐานตามที่รัฐบาลและส่วนที่เกี่ยวข้องได้กำหนดไว้ ซึ่งที่ผ่านมาทางจังหวัดได้มีการจัดทำมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีความมั่นใจ ในการเดินทางมาท่องเที่ยวในโครงการดังกล่าว โดยได้มอบหนังสือรับรองมาตรฐานให้กับรถโดยสารประจำทาง และ ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวโครงการสมุยพลัส โมเดล ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยจำนวน 22 ราย จาก 40 กว่าราย เข้ารับหนังสือรับรองมาตรฐานเรือหางยาวสำหรับรับ-ส่ง นักท่องเที่ยว ตามเกาะแก่ง ต่างๆ และสติกเกอร์เรือนำเที่ยว SAMUI+ PHA-NGAN TAO VERIFIED TRANSPORT เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวว่าเรือดังกล่าวมีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน
สำหรับการเดินทางเข้ามาใช้บริการของนักท่องเที่ยวตามโครงการสมุยพลัสโมเดล นั้น พบว่า หลังกลับมาเปิดน่านฟ้าให้บริการเที่ยวบินแก่นักท่องจากสนามบินภูเก็ต มายังสนามบินเกาะสมุย เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 นั้น มีการจองห้องพักในช่วงวันที่ 25 -27 สค.64 ในพื้นที่เกาะสมุยกว่า 900 รูมไนท์ ประกอบกับรัฐบาลโดย ศบค. ได้มีมติให้การท่องเที่ยว 4 จังหวัด หลังการเก็บตัวตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้ว 7 วัน สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวต่อ ในพื้นที่ จังหวัด กระบี่ พังงา และ สุราษฎร์ธานีได้ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่นในลักษณะ 7+7 จึงมั่นใจได้ว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถกกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ แต่ในขณะเดียวกันพื้นที่เองก็จะต้องเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งทางจังหวัดได้มีการจัดทำมาตรฐานความปลอดภัยรองรับนักท่องเที่ยวในการป้องกันการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด 19 ตามาตรการ SOP ซึ่งมีมาตรการรักษาความปลอดภัยถึง 16 รายการ โดยเริ่มตั้งแต่การดูแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางลงมาจากสนามบินนานาชาติ เกาะสมุย การเดินทางเข้าที่พัก การเดินทางท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งการเดินทางกลับ ทั้งนี้เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงมาตรฐานราคาที่เป็นธรรมแก่นักท่องเที่ยวในโครงการสมุยพลัสโมเดล รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยหลังจากเปิดโครงการสมุยพลัสโมเดล มีนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตมาสมุย 281 คน และมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มาในโครงการสมุยพลัสโมเดล 481 คน พบว่ามีนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อโควิดแค่ 4 คนเท่านั้นซึ่งน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา
ด้าน นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมหรือกฎระเบียบข้อบังคับของนักท่องเที่ยวในโครงการ “สมุย พลัส โมเดล” ทางศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุย ได้อนุมัติการทำกิจกรรมของนักท่องเที่ยวให้หลากหลายมากขึ้น ในช่วง 7 วันแรก จะเป็นกิจกรรมที่ปลอดภัยไม่ปะปนกับประชาชนในพื้นที่หรือนักท่องเที่ยวชาวไทย และนักท่องเที่ยวจะไม่รู้สึกเบื่อที่จะต้องอยู่แต่ในโรงแรมอย่างเดียว โครงการสมุยพลัสโมเดล คือความหวังของรัฐบาลในการเปิดประเทศรองรับนักท่องเที่ยว โดยทางสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ยังได้เตรียมความพร้อมการประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศเพื่อให้การท่องเที่ยวเกาะสมุยโด่งดังไปทั่วโลกซึ่งสิ่งที่สมาคมกำลังทำนั้น ถือเป็นหน้าตาของประเทศ แม้ว่าตัวเลขการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาอาจยังไม่มากนัก แต่ในวันนี้พบว่า หลังจากที่ประชุม ศบค.เห็นชอบการขยายพื้นที่ของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ให้กว้างขึ้น โดยให้นักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่นในลักษณะ 7+7 เป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังพื้นที่นำร่อง อื่นๆ ได้เพิ่มเติม โดยปรับลดเวลาที่ต้องอยู่ในพื้นที่ภูเก็ตจาก 14 วัน เหลือ 7 วัน ซึ่งพื้นที่นำร่องประกอบด้วย พื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ และพื้นที่เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นกลไก สำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2564 จากการเปิดดูข้อมูลการจองที่พักพบว่าแค่ 3 วัน ของการเปิดจองห้องพัก มีสูงถึง 950 รูมไนท์ นับว่าเป็นปรากฏการณืที่ดี ที่จะสามารถให้ผู้ประกอบการกลับมาประกอบธุรกิจได้บ้าง ตัวเลขนักท่องเที่ยวก็จะมีเพิ่มขึ้น การทำกิจกรรมต่างๆ ก็จะกระจายรายได้ไม่เฉพาะแต่ผู้ประกอบการ เท่านั้น แต่ชุมชนต่าง ๆ หรือแม้แต่ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำก็จะได้รับประโยชน์จากโครการนี้ด้วย
เช่นเดียวกันกับ นายอิทธิพงศ์ ชุมขวัญ ผู้ประกอบการเรือหางยาวนำเที่ยว กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจและปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ทางรัฐบาลและผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ เกาะสมุย การมอบหนังสือรับรองมาตรฐานเรือหางยาวสำหรับรับ-ส่ง นักท่องเที่ยว ตามเกาะแก่ง ต่างๆ และสติกเกอร์เรือนำเที่ยว SAMUI+ PHA-NGAN TAO VERIFIED TRANSPORT ในส่วนนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจในการใช้บริการเรือหางยาวได้มากขึ้น เพราะเขามั่นใจว่าเรือนำเที่ยวที่ได้รับหนังสือรับรองมีความปลอดภัยสามารถใช้บริการได้ ซึ่งตนเองขอให้คำมั่นว่าจะให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างดีที่สุด เพื่อสร้างความประทับใจและสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสุราษฎร์ธานีและประเทศชาติ
ด้านนางฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน กล่าวว่า ตนเองยอมรับว่าการดำเนินงานโครงการดังกล่าวทำให้ชาวเกาะพะงันได้รับโอกาสที่ดีเพื่อจะได้กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ แต่ที่ผ่านมาการดำเนินการตามโครงการพบว่าผู้ประกอบการเองก็ได้รับผลกระทบบ้างในเรื่องของคำสั่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ผ่านมา ที่กำหนดให้งดการนั่งรับทานอาหารภายในร้านอาหาร ซึ่งจากคำสั่งดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการยังปรับตัวไม่ทัน ทำให้ได้รับความเสียหายการสต๊อกวัตถุดิบ ที่สำคัญควรกำหนดการเข้าใช้บริการต่างๆ ควรกำหนดให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถใช้บริการร้านอาหาร ร้านนวดเพื่อสุขภาพ และ ธุรกิจต่างๆ ได้ ซึ่งแนวทางนี้ก็จะทำให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัย และ ที่สำคัญคือประชาชนในพื้นที่เองก็จะได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวด้วย
สำหรับโครงการ สมุยพลัสโมเดล เป็นโมเดลการนำร่องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโด๊สแล้ว สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวบนพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เพื่อพยุงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ภายใต้มาตราฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยรูปแบบของ Samui Plus Model จะเป็นการเปิดพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะ สะดวกต่อการจำกัดพื้นที่ท่องเที่ยวและควบคุมการเข้า-ออก รวมทั้งสามารถจัดการเรื่องท่องเที่ยวได้แบบมีเงื่อนไขในเส้นทางหรือพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น (Sealed route) จากนั้นก็มีการเตรียมพร้อมในพื้นที่ ภายใต้เงื่อนไขประชากรในพื้นที่ทั้ง 3 เกาะ คือ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70% มีการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับ SOP (Standard Operation Procedures) เช่น พนักงานขับเรือ – รถ ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว กิจการ Wellness พนักงานโรงแรมส่วนหน้า SHA Plus Manager รวมถึงอาสาสมัครโรงแรม
หัวหน้าศูนย์ข่าว เรื่องจริงผ่านเลนส์ สุราษฎร์ธานี / รายงาน
Leave a Reply