คืบหน้า แอร์โฮสเตสสาวโวยถูกผัวเพื่อนตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำ ตำรวจออกหมายเรียกแล้ว

คืบหน้า แอร์โฮสเตสสาวโวยถูกผัวเพื่อนตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำ ตำรวจออกหมายเรียกแล้ว
จากกรณีที่โฮสเตสสาวของสายการบินชื่อดัง พร้อมเพื่อนรวม 11 คน หญิง 7 รายเด็กชาย 2 ราย ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังทราบว่าถูกสามีเพื่อนสนิท ตั้งกล้องจิ๋วแอบถ่ายขณะทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำบ้านเพื่อนสนิท ในย่านจังหวัดสมุทรปราการ เกรงว่าภาพขณะที่ถูกแอบถ่ายจะหลุดไปในโลกโซเชียล หลังผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ที่ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 แต่มาจนถึงวันนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า
ล่าสุดในวันนี้ที่ 2 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดีที่โรงพัก สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้เข้าพบ พ.ต.ท.รังสรรค์ คำสุข รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางแก้ว เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี โดย พ.ต.ท.รังสรรค์ ได้เปิดเผยว่า จากกรณีที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้เกี่ยวกับที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว ว่า ได้ถูกชายที่เป็นสามีของเพื่อนติดตั้งกล้องจิ๋วแอบถ่ายไว้ในห้องน้ำขณะที่ไปทำกิจส่วนตัว ภายหลังจากที่มีการแจ้งความร้องทุกข์แล้ว พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีก็ได้เรียกตัวผู้ต้องหาเข้ามาสอบถามข้อมูล ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าได้เป็นคนเอากล่องจิ๋วเข้าติดตั้งไว้ในห้องน้ำจริง แต่ก็นานแล้วส่วนคลิปที่เคยเก็บไว้ ได้ลบทิ้งไปหมดแล้ว และสมัครใจยินยอมมอบโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่องและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่องให้กับทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในระบบ ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบในแอฟพิเคชั่นต่าง ๆและในหน่วยความจำทั้งในโทรศัพท์มือถือและโน๊ตบุ๊คแล้วไม่พบคลิปภาพหรือไฟล์ภาพของผู้เสียหายที่ถูกแอบถ่ายแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือส่งโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 เครื่องและโน๊ตบุ๊ค ไปให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางทำการตรวจสอบกู้คืนข้อมูลไฟล์ภาพต่าง ๆ ที่ถูกลบทิ้งไปแล้ว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในครั้งนี้เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีแก่ผู้ก่อเหตุ

ซึ่งถ้าหากเก็บกู้มาได้อาจจะมีผู้เสียหายรายอื่น ๆ เข้ามาร้องทุกข์เพิ่มเติม เพราะเท่าที่ทราบผู้ก่อเหตุเคยไปก่อเหตุทำนองเดียวกันมาในอีกหลายสถานที่ ส่วนผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว มีเพียงรายเดียว ซึ่งก็ยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับตัวผู้เสียหาย แต่จากคำรับสารภาพของผู้ก่อเหตุ ก็เข้าข่ายมีความผิดเกี่ยวกับการคุกคามก่อความเดือดร้อนรำคราญ ซึ่งก็เป็นความผิดลหุโทษ ส่วนจะเป็นความผิดที่มากกว่านี้ หรือมีข้อหาเพิ่มเติมไปกว่านี้ก็ต้องดูที่พยานหลักฐานที่เราจะสามารถได้มาในภายหลัง เช่น มีภาพของเด็กเยาวชนซึ่งเป็นภาพลามกอนาจาร ซึ่งถ้าพบภาพแบบนั้นก็จะเข้าข่ายเรื่องของการมีไว้ในความครอบครองซึ่งภายลามกอนาจารของเด็กและเยาวชน ซึ่งขณะนี้รอผลการกู้คืนข้อมูลของกองพิสูจน์หลักฐานกลางที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ออกมาเสียก่อนถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ซึ่งในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้ออกหมายเรียกตัวผู้ก่อเหตุให้ตำรวจสายตรวจส่งไปที่บ้านผู้ก่อเหตุแล้ว ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ก่อความเดือดร้อนรำคราญ ซึ่งเป็นความผิดตามคำให้การของผู้ก่อเหตุ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อกับผู้ก่อเหตุทางโทรศัพท์ได้มีการปิดเครื่อง แต่ก็ยังติดต่อกับภรรยาผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งภรรยาผู้ก่อเหตุบอกว่าขอเก็บตัวก่อน แต่พนักงานสอบสวนได้แจ้งให้เน่งรัดเดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา แต่ก็ยังไม่มีคำตอบทางพนักงานสอบสวน จึงได้ออกหมายเรียกตัวผู้ก่อเหตุ ให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาโดยเร็ว