สลดรับปีใหม่ หนุ่มวัย 33 ปี ขี่ จยย.เสียหลักพุ่งชนท้ายรถกระบะตู้ทึบดับสลด ย่านตลาดพลู
วันที่ 1 มกราคม 2565
เวลา 17.00 น.
ร้อยตำรวจเอก พงศ์ศรัณย์ ใหมไชย รอง สว.สอบสวน สน.ตลาดพลู รับแจ้งมีอุบัติเหตุ และมีผู้เสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุ เป็นชาย 1 ราย บริเวณลอยวุฒากาศ ถนน ราชพฤกษ์ มุ่งหน้าลงถนน รัชดาท่าพระ จึงเร่งรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย อายุ 33 ปี ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่บนพื้นถนน มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมากบริเวณจมูกกับปาก ตาทั้งสองข้างเขียวช้ำ มีบาดแผลถลอกทั่วร่างกาย สวมใส่เสื้อคลุมแขนยาวสีแดง สวมทับเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นลายการ์ตูนสีดำ กางเกงขายาวยีนส์สีน้ำเงิน รองเท้าแตะแบบสวมสีน้ำเงิน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มตะแคงคว่ำอยู่บนพื้นถนนในสภาพพังเสียหายยับเยินทั้งคัน เป็นจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นแอร์ล็อค 150 CC สีแดงดำ ทะเบียน 6 กฬ 752 กรุงเทพมหานคร แล้วถัดมาจึงพบกับรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ตีตู้ทึบ ทะเบียน 1 ฒท 3574 กรุงเทพมหานคร ในสภาพไฟท้ายข้างซ้ายแตกกระจาย และหลุดออกจากตัวรถ พังเสียหายอย่างเห็นได้ชัดเจน จอดนิ่งสนิทอยูบริเวณจุดเหตุ ลอยตลาดพลู ถนน ราชพฤกษ์ แขวง ดาวคะนอง เขต ธนบุรี กรุงเทพมหานคร ส่วนผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าวยังยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำอยู่ภายในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถาม แฟนสาวของคนขับรถกระบะ บอกเล่าว่าตนเองและครอบครัวเดินทางไปส่งพี่สาวที่จังหวัดสมุทรสาคร แล้วกำลังจะกลับบ้านซึ่งต้องผ่านมาทางเส้นทางนี้ และในช่วงเกิดรถของตน จอดติดไฟแดงอยู่ตรงบริเวณนี้ แล้วพอสักพักก็ได้ยินเสียงดังสนั่นมาจากด้านท้ายรถของตน จึงลงมาดูก็พบว่ามีรถจักรยานยนต์มาชนท้ายรถของตนจนไฟเลี้ยวด้านซ้ายแตก และหลุดออกมาทั้งยวงได้รับความเสียหาย แล้วก็เห็นมีคนเจ็บนอนนิ่งอยู่กับพื้นถนน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกู้ภัยให้เร่งเข้าให้การช่วยเหลือ แต่พอกู้ภัยมาถึงก็ช่วยกันปฐมพยาบาลและทำ CPR แต่ไม่เป็นผลก็เลยเสียชีวิต ตนเองก็ตกใจแล้วทำอะไรไม่ถูกเลย แต่ยืนยันเลยว่าตอนเกิดเหตุนั้นรถของตน จอดนิ่งสนิทอยู่นานแล้วเพราะรถติด
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเเพทย์นิติเวช สันนิษฐานการเสียชีวิตว่าผู้ตายได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงจนคอหัก และอาจจะมีการแตกร้าวจากกระดูกส่วนอื่นตามร่างกายเพิ่มอีกด้วย จึงทนความเจ็บปวดไม่ไหวก็เลยอาจจะเป็นเหตุให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่อย่างไรแล้วจะต้องส่งร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ จึงมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปที่นิติเวช ก่อนที่จะมอบให้ญาติมารับร่างของผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปผลต้องรอตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดในระแวกแถวนี้ก่อน และต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากศพ ถึงจะสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดได้ แล้วถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Leave a Reply