ปราจีนบุรี ยังไม่เจอตัว หนุ่นหนีช้างป่ากลางสวนยาง

วันที่ 31 ธค. 64 ที่บ้านวังทอง ม.22 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พากันออกตามหาตัวนายทองสา วันทุมมา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 22 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อวันที่ 22 ธค. ที่ผ่านมา นายทองสา ได้ออกจากบ้านไปทำงานจ้างตัดยูคาลิปตัสกับเพื่อนบ้านช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา วันที่ 21 ธค. 64 นายทองสา บอกกับเพื่อนร่วมงานว่าจะกลับบ้านไปตามเรื่องเงินชดเชยการเกษตรที่ ธกส. เพื่อนร่วมงานบอกว่าอย่าเพิ่งกลับขอให้ช่วยตัดยูคาลิปตัสแปลงนี้ให้เสร็จก่อนไม่กี่วันก็เสร็จแล้ว นายทองสาบอกว่าให้ทุกคนตัดกันเองจะกลับไปกดดูเงินชดเชยจากนั้นไม่พูดอะไรอีกเพราะเป็นคนบ้านเดียวกันรุ่งเช้าทุกคนก็ชวนให้ตัดไม้ยูคาลิปตัสให้เสร็จแล้วค่อยกลับบ้าน แต่นายทองสายืนยันจะกลับบ้าน จากนั้นกินข้าวและกินเหล้าแล้วก็ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีดำแดง หมายทะเบียน 1 กจ 371 สระแก้ว ออกจากแคมป์คนงานกลางป่ายูคาลิปตัส เมื่อนายทองสาขี่รถออกจากแคมป์คนงานทุกคนก็ลงมือตัดยูคาลิปตัสกันต่อเพื่อที่จะให้เสร็จ

หลังจากตัดยูคาลิปตัสแปลงดังกล่าวเสร็จ 5 วัน เพื่อนคนงานพากันกลับมาบ้านแล้วมาถามหานายทองสา แม่และญาตินายทองสาบอกว่านายทองสาไม่ได้กลับมาบ้านเพื่อนร่วมงานบ้านเดียวกันและเป็นเครือญาติกันบอกว่านายทองสากลับมาบ้านตั้งแต่วันที่22แต่ยังไม่กลับถึงบ้านสร้างความตกใจให้กับทุกคนจึงพากันออกตามหาในเส้นทางที่ใช้สัญจรข้ามหมู่บ้านซึ่งเป็นถนนลูกรังผ่านสวนยางพาราสวนยูคาลิปตัสของเอกชนนับหมื่นไร่ แต่ก็ไม่พบตัวนายทองสา ขณะเดียวกันได้รับโทรศัพท์จากตำรวจ สภ.วังคู อ.สนามชัยเขต ว่าพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ในสวนยางพารา ห่างจากบ้านคน 8 กม. เมื่อวันที่ 29 ธค. ญาติได้มาแจ้งผู้ใหญ่บ้านและกำนันให้ทราบ กำนันเรียกผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนันแพทย์ประจำตำบล ชรบ.และชาวบ้านร่วมกันออกค้นหาตัวนายทองสาบริเวณที่พบรถจักรยานยนต์จอดอยู่แต่ก็ไม่พบตัว ป้าลา วันทุมมา แม่นายทองสากล่าวว่า ลูกชายออกไปรับจ้างตัดยูคาลิปตัสกับญาติต่างหมู่บ้านไม่รู้หายไปไหน ทุกวันนี้ก็รอคอยการกลับมาของลูกชาย ปกติลูกชายเป็นคนไม่ค่อยพูดไม่สุงสิงกับใคร แต่ก็มีบ้างกินเหล้าเป็นคนนิสัยดี อยู่บ้านเดียวกัน 3 คน แม่ลูกสาวเป็นคนโต ลูกคนเล็กไปทำงานที่กรุงเทพฯ ให้หลานสาวไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ. วังคูไว้แล้ว

นายวัชรธรรม พรมสามสี กำนัน ต.วังท่าช้างกล่าวว่าลูกบ้านได้ไปรับจ้างตัดยูคาลิปตัสกับญาติๆกัน ห่างจากหมู่บ้าน 15 กม. ตนได้สอบถามลูกบ้านที่เป็นญาติกันกับนายทองสาซึ่งทุกคนบอกตรงกันว่านายทองสาขอกลับบ้านก่อนและเบิกเงินติดตัวมา 2,000 บาท เพื่อที่จะมาดูเงินเยียวยาฯ ทางญาติกลับมาบ้านไม่เห็นนายทองสาจึงมาถามถึงรู้ว่านายทองสาไม่ได้กลับมาบ้าน และได้รับแจ้งจากตำรวจว่าพบรถของนายทองสาจอดอยู่กลางสวนยางพาราจึงระดมคน 50 คน ค้นหาตามจุดต่างๆวันนี้ขอกําลังจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรีช่วยค้นหาในป่ายูคาลิปตัสแต่ก็ไม่พบ

สาเหตุที่นายทองสาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งไว้ 2 ประเด็น คือถูกจี้ชิงทรัพย์เพื่อนำรถไปขายซึ่งบริเวณดังกล่าวมีซากรถมอเตอร์ไซค์อยู่ในสระน้ำจำนวนหนึ่ง นายทองสาขัดขืนจึงถูกนำตัวไปซ่อนไว้ที่อื่น ประเด็นที่สองนายทองสาขับรถมาตามทางพบฝูงช้างป่า ซึ่งฝูงช้างอ่างฤาไนจะหากินอยู่ในป่ายูคาลิปตัสมากกว่า 50 ตัว คนที่ผ่านเส้นทางนี้มักจะเจอช้างบ่อยๆ อาจเป็นไปได้ว่านายทองสาขับรถมาตามทางเห็นฝูงช้างตกใจจึงจอดรถไว้ และวิ่งหนีช้างมาหลบอยู่ในป่าและซุ่มดูช้างว่าจะทำร้ายรถหรือไม่แต่ถูกช้างตามมาจึงวิ่งหนีช้างไม่ทัน อาจเป็นไปได้ว่าช้างป่าที่ดุร้ายทำร้ายนายทองสาและนำศพไปซุกซ่อนไว้ในป่าบริเวณดังกล่าวที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งฝูงช้างป่าทำร้ายคนและสามารถนำศพไปซ่อนไว้และหักกิ่งไม้ปิดไว้ไม่ให้คนเห็น เหตุการณ์ดังกล่าวเคยมีมาแล้วและอาจเกิดขึ้นได้

นายคมสันต์ ดาทอง หนึ่งในคนงานตัดยูคาลิปตัสและเป็นญาติกันกล่าวว่านายทองสากลับมาบ้านก่อนซึ่งทุกคนบอกขอให้อยู่ตัดลูกค้าให้เสร็จแปลงแล้วก็กลับ แต่นายต้องหายืนยันจะกลับก่อนทุกคนไม่ได้ว่าอะไรและไม่ได้ทะเลาะกับใคร เมื่อกลับมาถึงบ้านมาถามแม่ของนายทองสาจึงรู้ว่านายทองสาไม่กลับบ้าน จึงพากันค้นนายทองสา แต่ก็ไม่พบตัว

นางอำนวย เหลาเพียร หลานสาวกล่าวว่าทุกคนช่วยกันออกตามหานายทองสาหลังจากหายตัวกลางป่าฯ ยังไม่มีใครรู้ว่านายทองสาหายตัวไปไหน อาจเป็นไปได้ช้างทำร้าย และลากตัวไปไว้ที่อื่น หรืออาจเป็นไปได้ถูกดักจี้ชิงทรัพย์ วันนี้ออกตามหากันตั้งแต่เช้าแต่ก็ไม่พบตัวได้ทำทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นทางไสยศาสตร์ให้หมอดูหลายที่ ดูบอกว่านายทองสายังมีชีวิตอยู่ ซึ่งอยู่ในเมืองลับแล ต้องให้ญาติขอขมาอย่างถูกต้องจึงจะพบเห็นตัวนายทองสาแต่หากไม่ถูกต้อง เจ้าเมืองลับแลจะเอาตัวไปเป็นบริวารเนื่องจากนายทองสาเป็นคนรูปร่างกำยำ