“สามารถ”ฟันธงก้าวไกล ปราชัยสนามเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร แต่ยอมรับกุนซือก้าวไกลเฉียบ ชิงเปิดตัว”วิโรจน์”ลูกหม้อพรรค ชิงผู้สมัครผู้ว่ากทม.เพื่อใช้คะแนนสนามลต.นี้ เช็คเรตติ้งหวังผลวางหมากเกมสนามเลือกตั้งระดับชาติ

“สามารถ”ฟันธงก้าวไกล ปราชัยสนามเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร แต่ยอมรับกุนซือก้าวไกลเฉียบ ชิงเปิดตัว”วิโรจน์”ลูกหม้อพรรค ชิงผู้สมัครผู้ว่ากทม.เพื่อใช้คะแนนสนามลต.นี้ เช็คเรตติ้งหวังผลวางหมากเกมสนามเลือกตั้งระดับชาติ

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว มีเนื้อหาข้อความว่า การเลือกตั้งซ่อมที่จ.ชุมพรและสงขลา เป็นการสะท้อนให้เห็นการเลือกตั้งแบบวิถีใหม่ที่แตกต่างไปจากแบบเดิม ซึ่งการเลือกตั้งซ่อมเขต9กรุงเทพฯในวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2565 จะเป็นตัวชี้วัดให้เห็น

ผมขอถอดบทเรียนพรรคอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล ว่าการที่พรรคก้าวไกลเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่ากทม. นั้นไม่ได้ผิดพลาดจากที่ตนได้คาดการณ์ไว้แม้แต่นิดเดียว ซึ่งจากการที่มีการปล่อยข่าวลือเป็นระยะว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะลงแข่งขันชิงเก้าอี้ผู้ว่ากทม. ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งที่คลาดเคลื่อนไปจากการที่ตนคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จากที่เคยมีการหยิบยกพูดคุยกันกับเพื่อนส.ส.หลายท่านในโต๊ะน้ำชาครั้งนั้น ผมแสดงความเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่นายพิธา จะมาเล่นการเมืองเพียงแค่ลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ไม่เช่นนั้นจะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่ออะไร และการเป็นหัวหน้าพรรคฯย่อมเป็นการวางตัวไว้เพื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ และก็เป็นไปตามที่ผมคาดไว้ ซึ่งล่าสุดได้มีการเปิดตัวนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่ถือว่าเป็นลูกหม้อ หากเทียบกับทีมฟุตบอล คือเติบโตมาจากอะคาเดมี่ เปรียบเสมือนเด็กในสังกัดสโมสนฟุตบอล ซึ่งภาพของนายวิโรจน์ สะท้อนตัวตนแก่นแท้ของพรรคก้าวไกลได้อย่างชัดเจนทีเดียว
ไม่จะเป็นเรื่องการปะฉะดะ การอภิปรายที่แข็งกร้าว การแสดงจุดยืนของพรรคหรือที่พูดว่าเป็น”ตัวจี๊ด”ของพรรคก้าวไกลเลยทีเดียว

ดังนั้น ผมคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งซ่อมเขต9กทม.ในวันอาทิตย์ที่30มกราคมนี้ พรรคก้าวไกลไม่ได้รับชัยชนะได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส.เขตเลือกตั้งหลักสี่-จตุจักร แต่จะได้รับคะแนนเสียง เป็นลำดับที่ 2 หรือ 3 โดยเป็นคะแนนมาจาก กลุ่มคนรุ่นใหม่ ดังนั้น การที่พรรคก้าวไกลเปิดตัวนายวิโรจน์ ถูกวางตัวเป็นผู้รับเลือกตั้งสมัครผู้ว่ากทม.นั้น การที่พ่อแม่พี่น้องประชาชน เยาวชนรุ่นใหม่ลงคะแนนให้กับผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.ในวันอาทิตย์นี้ ย่อมเป็นผลมาจากการเปิดตัวนายวิโรจน์ ซึ่งการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งระดับชาตินั้น และจะเป็นการสะท้อนคะแนนเลือกตั้งพรรคก้าวไกลในสนามเลือกตั้งใหญ่ระดับชาติได้

ทั้งนี้ พรรคก้าวไกล เลือกใช้วิธีการเปิดตัวนายวิโรจน์ ลงผู้ว่ากทม.เพื่อเช็คเรตติ้งมวลชน สำหรับการวางแผนของพรรคก้าวไกลเพื่อเตรียมรับการเลือกตั้งระดับชาติ

โดยในปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้รับคะแนนเสียงทั่วประเทศ 6, 265,950 คะแนน โดยเป็นคะแนนเสียงจากทั่วกทม.804,272 คะแนน ซึ่งภายในวันอาทิตย์นี้ หากผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต9 กทม.ได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 25, 735 เท่ากับว่าพรรคก้าวไกลมาถูกทางแล้ว ในทางตรงกันข้ามหากพรรคก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงน้อยกว่า 25, 735 คะแนน ก็จะต้องทบทวนบทบาท ฉะนั้น การเปิดข่าวส่งนายวิโรจน์เข้าชิงเก้าอี้ผู้ว่ากทม ก็ต้องวัดว่าและลุ้นให้ได้คะแนนมากกว่า 804,272 คะแนน เพื่อวัดความนิยมพรรคว่าดีขึ้นหรือแย่ลง. ดังนั้นการวางแผนดังกล่าวจึงเป็นกลยุทธ์ที่มีมาตั้งแต่อดีตที่เรียกว่าแผนการ”โยนกระเบื้องล่อหยก” นั่นเอง
ซึ่งต้องยอมรับว่ากุนซือของพรรคก้าวไกลวางยุทธศาสตร์โดยมองการเมืองแบบวิถีใหม่และสร้างอัตลักษณ์ทางการเมืองให้กับพรรคก้าวไกลได้อย่างแท้จริง

ต้องยอมรับว่ากุนซือของพรรค วางยุทธศาสตร์โดยมองการเมืองแบบวิถีใหม่และสร้างอัตลักษณ์ทางการเมืองให้ กับพรรคก้าวไกลได้อย่างแท้จริง ถ้าดูจากมุมมองเงินบริจาคให้พรรคการเมืองที่พรรคก้าวไกล แซงพรรคการเมืองเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ไปได้

แต่เรื่องนี้ฝ่ายความมั่นคงและผู้มีอำนาจต้องจับตาดูทิศทางการเมือง ของพรรคก้าวไกลเพราะแนวความคิดที่สุดโต่งและนำซ้ำยังถูกถ่ายทอดไปอย่างรวดเร็วโดยใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งผมไม่ได้บอกว่าแนวความคิดดังกล่าวถูกหรือผิด แต่ แนวความคิดดังกล่าวอาจจะเดินไปถึงในสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดซึ่งมันจะทำให้เกิดความแตกแยกและเกิดความแตกหักขึ้นในสังคมไทยเหมือนในอดีต ซึ่งประวัติศาสตร์หลายประเทศมีให้เห็นแล้ว ผมขอหยิบยกเปรียบเสมือนการเป็นมะเร็งหรือเนื้อร้ายซึ่งถ้าแพทย์ตรวจพบแพทย์จะต้องดำเนินการรักษาเพื่อมิให้เนื้อร้ายหรือมะเร็งลุกลามด้วยการฉายแสงหรือให้ยาคีโม ดังนั้นเรื่องนี้ก็คล้ายกัน ฝ่ายความมั่นคงต้องหยุดการนำเสนอข้อมูลเท็จและเปลี่ยนแนวความคิดของคนในชาติให้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้องและร่วมกันทำหน้าที่พลเมืองตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา50 คือการปกป้องชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ เพราะเด็กไทยในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ถ้าไม่ชี้ทางที่ถูกก็อาจเห็นผิดเป็นชอบไปได้ ตรงนี้คือสิ่งที่น่ากังวล

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link