กทม.เตรียมเพิ่มค่าวัสดุอุปกรณ์การสอน – อาหารกลางวันศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน
นางอณุสรา ชื่นทรวง ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กทม. กล่าวกรณีในสื่อออนไลน์เสนอข่าวเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน กทม. ซึ่งเป็นอาสาสมัคร ไม่มีสวัสดิการใด ๆ รวมถึงยังขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนสำหรับเด็กว่า การสนับสนุนค่าวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์เสริมทักษะให้เด็กก่อนวัยเรียน และค่าอาหารกลางวัน อาหารเสริม (นม) ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสนับสนุนการพัฒนาชุมชน พ.ศ.2554 ซึ่งจะมีการกำหนดอัตราการเบิกจ่ายใหม่ที่เหมาะสม โดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้สำนักพัฒนาสังคม เร่งรัดดำเนินการ รวมทั้งพิจารณาเรื่องวุฒิการศึกษาของอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก และจัดทำคู่มือให้แก่อาสาสมัคร เพื่อให้มีมาตรฐานการดูแลเด็กปฐมวัยอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ การดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในชุมชนในกรุงเทพฯ มีความเป็นมาแตกต่างจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อื่น โดยเกิดจากการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนที่ช่วยเหลือดูแลเด็กปฐมวัยก่อนเข้าสู่ระบบโรงเรียน บริหารงานโดยคณะกรรมการศูนย์เด็ก ร่วมกับกรรมการชุมชนในพื้นที่ของชุมชน เมื่อมีการถ่ายโอนศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์ในวัดและศูนย์เด็กที่ภาคเอกชนช่วยสนับสนุนดูแลเด็กเข้ามาเพิ่มเติม กรุงเทพมหานครจึงช่วยสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน เช่น ค่าตอบแทนแก่อาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก หรือครูพี่เลี้ยง ตามวุฒิการศึกษา รวมทั้งช่วยสมทบเงินประกันสังคมในอัตราร้อยละ 5 เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ประกันสังคมตามที่กฎหมายกำหนด โดยสำนักงานเขตพื้นที่และสำนักพัฒนาสังคม จะช่วยกำกับดูแล สนับสนุน รวมทั้งอบรมและพัฒนาทักษะความรู้ครูพี่เลี้ยง เพื่อให้การดูแลเด็กปฐมวัยเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ทั้งนี้ ปัจจุบันมีจำนวนศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน กทม.ลดลง เนื่องจากอัตราการเกิดที่ลดต่ำลง คงเหลือเพียง 279 ศูนย์ ในพื้นที่ 45 เขต จำนวนครู 1,989 คน ส่วนแนวทางการบรรจุเป็นลูกจ้าง หรือข้าราชการ ยังมีข้อจำกัดด้านกฎหมายเกี่ยวกับงบประมาณบุคลากรของท้องถิ่น ประกอบกับสำนักงานเขต มีการจ้างอาสาสมัครในโครงการอื่น ๆ ที่มีความสำคัญเช่นกัน อาทิ อาสาสมัครคนพิการ ซึ่งการจะเลือกบรรจุเฉพาะบางประเภท จึงอาจเป็นการเลือกปฏิบัติ
Leave a Reply