สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงความคืบหน้าเพิ่มเติม การดำเนินคดีกับ
กลุ่มรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จว.นครราชสีมา

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงความคืบหน้าเพิ่มเติม การดำเนินคดีกับ
กลุ่มรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จว.นครราชสีมา

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงความคืบหน้าเพิ่มเติม การดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จว.นครราชสีมา ที่นำรุ่นน้องออกไปจัดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่แล้วเกิดเหตุมีรุ่นน้องเสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 65

ความคืบหน้าทางคดีขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.มะเริง ได้สอบสวนปากคำพยานไปแล้ว 59 ราย สอบสวนปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดจำนวน 7 ราย พร้อมได้แจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” อีกทั้งอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 295 ,ร่วมกันในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล กระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอายหรือเดือนร้อนรำคาญ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 397 และ ร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืน ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9(2) แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และจะเร่งรัดทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีด้วยความรวดเร็ว ตรงไปตรงมา พิสูจน์ทราบทำความจริงให้ปรากฎ ด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เน้นหลักนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญในการรวบรวมพยานหลักฐานมาประกอบคดี

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขอฝากเตือนไปยังรุ่นพี่สถาบันต่างๆ ที่จะจัดกิจกรรมรับน้องหรือบังคับรุ่นน้องให้ไปร่วมกิจกรรมโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ละเมิดสิทธิและความเสมอภาค หากมีการกระทำผิด มีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย มีประวัติและเสียอนาคตได้
และขอฝากคณะครูอาจารย์ของสถาบันต่างๆให้ช่วยลงไปกำกับดูแลการจัดกิจกรรมของนักเรียน นักศึกษา ควรมีมาตรการในการป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ การรับน้องแบบละเมิดสิทธิและความเสมอภาคจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก และขอให้นำเหตุการณ์ดังกล่าวมาเป็นอุทาหรณ์ให้กับรุ่นพี่นักเรียน นักศึกษาจากสถาบันต่างๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมที่ไม่คำนึงความปลอดภัยและไม่เหมาะสม หากจะจัดกิจกรรมรับน้องก็ควรจัดกิจกรรมให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์ คำนึงถึงความปลอดภัย ความพร้อมร่างกาย จิตใจ ของรุ่นน้อง หรือผู้เข้าร่วมเเต่ละบุคคล การจัดกิจกรรมจะต้องปรึกษาคณะครู อาจารย์ของสถาบันก่อน อย่าทำไปโดยพลการ ไม่ว่าจะเป็นด้วยความคึกคะนอง หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วเกิดการบาดเจ็บ หรือสูญเสีย ตัวผู้กระทำเองก็จะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เสื่อมเสียชื่อเสียง เสียประวัติและอนาคต

การรับน้องไม่สร้างสรรค์นี้ สามารถแจ้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม Call Center 1313 ในวันและเวลาราชการ หรือ หากประชาชนต้องการแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสใดๆ สามารถแจ้ง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link